วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

บาฟส์จ่อขึ้นค่าบริการโลวคอสต์ ต.ค.นี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2556 18:09 น.


ที่มา http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046288
ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล
ASTVผู้จัดการรายวัน - “บาฟส์” จ่อขยับขึ้นค่าบริการเติมน้ำมันอากาศยานโลวคอสต์ที่ดอนเมืองต้นตุลาคมนี้ ดันรายได้ทั้งปีโตขึ้นกว่า 6% มั่นใจFPTออกจากศาลล้มละลายกลางได้ พ.ค.นี้ พร้อมศึกษาแผนขยายการลงทุนโครงการขยายท่อขนส่งน้ำมันอยุธยา-พิษณุโลก-ลำปาง ได้ข้อสรุป ก.ย. 56
     
       ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บาฟส์) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะปรับขึ้นอัตราค่าบริการเติมน้ำมันอากาศยาน (เจ็ท) กับสายการบินต้นทุนต่ำ (โลวคอสต์ แอร์ไลน์) ที่สนามบินดอนเมืองในต้นเดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากโลวคอสต์มีเที่ยวบินมากแต่การเติมน้ำมันแต่ละครั้งไม่สูง ทำให้มีต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันบาฟส์คิดอัตราค่าบริการทุกสายการบินในดอนเมืองเท่ากันหมดอยู่ที่ 55 สตางค์/ลิตร
     
       หากบริษัทฯ มีการปรับขึ้นอัตราค่าบริการเติมน้ำมันกับโลวคอสต์ แอร์ไลน์ จะทำให้รายได้ของบริษัทโตเพิ่มขึ้นกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ในปีนี้ขยายตัว 6% จากปีก่อน
       
       ม.ร.ว.ศุภดิศกล่าวถึงความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการของบริษัท ขนส่งน้ามันทางท่อ จำกัด (FPT) ว่า ขณะนี้บริษัท FPT อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลาง คาดว่าจะออกจากการฟื้นฟูฯ ได้ในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้ FPTอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการขยายแนวท่อขนส่งน้ำมันสายอยุธยา-พิษณุโลก-ลำปาง ระยะทาง 550 กิโลเมตร เพื่อลดการขนส่งน้ำมันทางรถยนต์ไปภาคเหนือ คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.นี้ ก่อนเสนอให้กระทรวงพลังงานพิจารณาเส้นทางและอัตราค่าบริการ
     
       โครงการขยายแนวท่อขนส่งน้ำมันจากอยุธยา-พิษณุโลก-ลำปางจะต้องมีการสร้างคลังน้ำมันที่พิษณุโลกและลำปาง ความจุ 100 ล้านลิตร/คลัง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนโครงการนี้ประมาณ 6.5 พันล้านบาท ดยแหล่งเงินทุนอยู่ระหว่างการพิจารณาในหลายรูปแบบทั้งกการกู้ยืมสถาบันการเงินโดยมีบาฟส์ค้ำประกัน การออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรักเจอร์ ฟันด์) หรือการออกหุ้นกู้ เป็นต้น
     
       “กระทรวงพลังงานได้ติดต่อทาง FPT ว่าสนใจที่วางท่อจากไปยังภาคเหนือจากเดิมที่บริษัทฯมีท่อขนส่งน้ำมันจากโรงกลั่นบางจาก-บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะมีการเชื่อมกับท่อน้ำมันแทปไลน์เพื่อขนส่งน้ำมันจากโรงกลั่นที่ระยองด้วย หากโครงการนี้มีผลตอบแทนที่ดี ก็คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ปีหน้า ใช้เวลา 3 ปี โดยค่าขนส่งน้ำมันทางท่อจะต่ำกว่าการขนส่งน้ำมันทางรถยนต์”
     
       นายฉัตรชัย พันธัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2556 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้โตขึ้น 2-3% จากปีก่อน ตามปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานที่โตขึ้น 2-3% ทั้งปีคาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันจะขยายตัวขึ้น 6% เพราะธุรกิจสายการบินในเอเชียยังดีอยู่
     
       ส่วนความคืบหน้าการวางระบบท่อน้ำมันใต้ดินในโครงการขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 ใช้เงินลงทุน 700 ล้านบาท ของบริษัทย่อยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอคำตอบจากกฤษฎีกา หลัง บมจ.ท่าอากาศยานไทยได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้พิจารณา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น