ทีวี ไดเร็ค’ รุกใหญ่ ระดมทุนกว่า 500 ล้านรับการขยายตัวของธุรกิจ
วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 15:20:16 น.
ที่มาhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย (Multichannel Marketing) เปิดเผยว่า เนื่องจากธุรกิจโฮมชอปปิ้งมีทิศทางการขยายตัวที่สูงมากในอนาคต บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องระดมเงินทุนให้เพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
โดยปัจจุบันได้เจรจากับพันธมิตรที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศหลายราย เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ที่จะสามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับบริษัทฯ นอกจากนี้ ยังจะได้แลกเปลี่ยนโนว์ฮาวระหว่างกัน ที่จะทำให้บริษัทฯ ได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 376 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 188 ล้านบาท เป็น 493.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 246.75 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 117.5 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในจำนวนนี้จะเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 94 ล้านหุ้น ในสัดส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 4.50 บาท
ส่วนหุ้นเพิ่มทุนอีก 23.5 ล้านหุ้น จะรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัฯ (วอแรนท์) ที่บริษัทฯ จะจัดสรรให้ผู้ที่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยได้รับวอแรนท์ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 วอแรนท์ โดยวอแรนท์ดังกล่าว มีอายุ 3 ปี สามารถใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญปีละ 2 ครั้ง ในอัตราส่วน 1 วอแรนท์ ต่อ 1 หุ้นสามัญ ที่ราคาหุ้นละ 3.50 บาท
“จากหุ้นสามัญที่เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม 94 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 4.50 บาท หากจำหน่ายได้ทั้งหมด บริษัทฯ จะได้รับเงิน 423 ล้านบาท และจะได้รับเงินจากการแปลงสภาพวอแรนท์ในอนาคตอีก ซึ่งหากใช้สิทธิทั้งหมด ก็จะได้เงินอีก 82.25 ล้านบาท เท่ากับว่าบริษัทจะได้เงินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้รวม 505.25 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำไปลงทุนขยายกิจการได้อีกมาก อันจะนำมาซึ่งผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” นายทรงพลกล่าวและเสริมว่า
จากการพูดคุยกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ต่างขานรับที่จะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพราะมั่นใจว่าจะทำให้บริษัทฯ แข็งแกร่งมากขึ้นและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้ากว่า 2 ล้านราย ขณะที่โครงสร้างการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ สามารถแบ่งออกเป็น 5 ส่วนหลัก คือ การตลาดทางทีวี (TV Marketing) การตลาดแบบตรง (Direct Marketing) การตลาดทั่วไป (Conventional Marketing) การบริการ อาทิ การให้บริการรับจ้างผลิตสื่อโฆษณาและจัดหาเวลาโฆษณาให้แก่ลูกค้า และธุรกิจขายตรง (Direct Sale) สำหรับในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% จากปีก่อนที่มียอดขาย 2,222 ล้านบาท ขณะที่แผนระยะยาวในอีก 5 ปี หรือในปี 2560 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายจะอยู่ที่ระดับ 5,555 ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น