วันอังคารที่ 12 มีนาคม 2013 เวลา 14:01 น.
กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
ที่มา http://www.thanonline.com/index.php?option
ชนินทร์ อรรจนานันท์ นายชนินทร์ อรรจนานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายนมพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์ "โฟร์โมสต์" เปิดเผยว่า บริษัทมีเตรียมใช้งบประมาณทำการตลาด 500 ล้านบาท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ พร้อมกับการกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่หันมาดื่มนมเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่สถิติการดื่มนมของคนไทยเพียง 14 ลิตรต่อคนต่อปี หรือเฉลี่ย 1 กล่องต่อคนต่อสัปดาห์ แตกต่างจากยุโรปที่มีอัตราการบริโภคสูงถึง 103 ลิตรต่อคนต่อปี ซึ่งสินค้าหลักที่บริษัทจะเน้นในปีนี้ ได้แก่ กลุ่มนมพร้อมดื่มและนมพาสเจอไรซ์ โดยใช้พรีเซนเตอร์อาทิ ณเดชน์ คูมิยะ ในการดึงเอาแฟนคลับมาเป็นแฟนของแบรนด์ ผ่านช่องทางออนไลน์ในการร่วมสนุกต่างๆ โดยที่ผ่านมามีการออกแคมเปญ "Milk Bump" ชนนมผ่านสมาร์ทโฟนกันนะวัยรุ่น เพื่อเป็นการกระตุ้นอีกช่องทางหนึ่ง
โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 10% จากปีที่ผ่านมาทำรายได้ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 50% คาดว่าจะเพิ่มเป็น 55% ในสิ้นปี จากมูลค่าตลาดรวมทั้งสิ้น 6 หมื่นล้านบาท เติบโต 9% และปีนี้มั่นใจว่าจากการกระตุ้นตลาดดังกล่าวของบริษัทจะส่งให้มูลค่าตลาดรวมเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า ด้านโรงงานผลิตบริษัทเตรียมลงทุน 400 ล้านบาท แบ่งเป็น 4 เฟส โดยจะลงทุนทางด้านการประหยัดพลังงานใช้งบ 100 ล้านบาท และอีก 300 ล้านบาท จะเป็นการทยอยลงทุนในอีก 3 ปีที่เหลือ เพื่อใช้สร้างจุดแข็งในเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน ซึ่งโรงงาน 2 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในย่านหลักสี่และสำโรง ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) จากกระทรวงอุตสาหกรรม ในเดือนมกราคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทเตรียมทยอยปรับเปลี่ยนฉลากผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ทุกประเภทเพื่อให้มีตราสัญลักษณ์อุตสาหกรรมสีเขียวในเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมกันนี้ได้วาง 4 แนวทางในการทำตลาด ได้แก่ 1.การส่งเสริมสุขภาพและภาวะโภชนาการ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดื่มนมและให้ความรู้ในด้านโภชนาการจากนมแก่ผู้บริโภค 2. การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน เป็นการจัดการกระบวนการผลิตนมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 3.การบริหารจัดการฟาร์มโคนม ที่บริษัทรับซื้อเพื่อสร้างคุณภาพและมาตรฐานที่สูงขึ้น และ 4. การพัฒนาฟาร์มโคนมอย่างยั่งยืน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,826 วันที่ 14 - 16 มีนาคม พ.ศ. 2556
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น