ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1366771496&grpid=03&catid=&subcatid=
“มิมาโมริ” เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของอีซูซุ สามารถวิเคราะห์ ทำรายงาน และให้คำแนะนำ เพื่อให้ผู้ขับขี่พัฒนาทักษะการขับรถได้อย่างประหยัดน้ำมันแบบมืออาชีพ ปลอดภัยยิ่งขึ้นทั้งรถและสินค้า และลดต้นทุนการขนส่ง เพิ่มกำไรยิ่งขึ้นอย่างเห็นผล อีซูซุจึงเชื่อว่า "รถบรรทุกอีซูซุ รุ่นมิมาโมริ" จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งในเมืองไทยให้มีโอกาสขยายกำลังการให้บริการที่มีคุณภาพ พร้อมขับเคลื่อนอนาคตเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกด้วย”
ครั้งแรกในเมืองไทย! รถบรรทุกอีซูซุอัจฉริยะ รุ่น “มิมาโมริ” ซึ่งไม่ใช่แค่รถบรรทุกประหยัดน้ำมันธรรมดา แต่คือ “สุดยอดโซลูชั่น” สำหรับการขนส่งเพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกธุรกิจ ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เป็นทางออกสำหรับการลดต้นทุนของธุรกิจขนส่งอย่างแท้จริง สามารถเชื่อมต่อระบบการทำงานเข้าสู่ศูนย์กลางผู้ดูแลระบบได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเรียกใช้ข้อมูลในรูปแบบรายงาน แสดงพฤติกรรมการขับขี่ได้ตลอดเวลา ทำให้มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2004 จนถึงปัจจุบัน สามารถสร้างยอดขายในประเทศญี่ปุ่นรวมกว่า 50,000 คัน และได้รับรางวัลจากหน่วยงานรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นถึง 3 รางวัล ได้แก่ Eco Product Award ในปี 2005 MCPC Award ในปี 2007 และ METI Award ในปี 2009 โดย รถบรรทุกอีซูซุอัจฉริยะ รุ่น “มิมาโมริ” สามารถตอบโจทย์การพัฒนาธุรกิจด้วยคุณลักษณะพิเศษ 4 ประการ ได้แก่
-ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น (FUEL ECO) : ระบบมิมาโมริช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ พร้อมรายงานพฤติกรรมการขับ และคำแนะนำได้อย่างละเอียด เข้าใจง่าย แม่นยำและเชื่อถือได้ เพื่อการปรับปรุงและเพิ่มพูนทักษะของพนักงานขับรถให้ขับได้อย่างประหยัดน้ำมันแบบมืออาชีพ สามารถวัดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันได้อย่างแม่นยำ โดยดึงข้อมูลจากหัวฉีดโดยตรง และแสดงผลการขับขี่บนหน้าจอแบบเรียลไทม์ พร้อมเสียงเตือนเมื่อมีพฤติกรรมการขับไม่ประหยัด แสดงผลการวิเคราะห์และให้คะแนนพฤติกรรมการขับขี่ในรูปแบบกราฟใยแมงมุมเพื่อง่ายต่อการเข้าใจและประเมินผล โดยสถิติดังกล่าวจะถูกบันทึกไว้เป็นข้อมูลพื้นฐานเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาทักษะการขับประหยัดแบบมืออาชีพให้แก่พนักงานผู้ขับรถในอนาคต
- เพิ่มความปลอดภัย (SAFETY) : ครั้งแรกในเมืองไทย การสื่อสารกับผู้ขับขี่ด้วยเสียงเตือนและข้อความ เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ จึงทำให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นทั้งตัวรถและสินค้า พร้อมการวิเคราะห์ให้คะแนนพฤติกรรมการขับประหยัดปลอดภัยในแต่ละหัวข้อ นอกจากนี้ยังช่วยแจ้งเตือนให้หยุดพัก เมื่อพนักงานขับรถเป็นระยะเวลายาวนานจนอ่อนล้า
-เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง (EFFICIENCY) : ด้วยเทคโนโลยีการควบคุมระบบปฏิบัติการอันทันสมัย ครั้งแรกในเมืองไทยกับ MIMAMORI ONLINE SERVICE ที่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลบันทึกรายงานการขับขี่ประจำวันของพนักงานขับรถแต่ละคนได้จากอินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา ก่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานยิ่งขึ้น นอกจากนั้นผู้บริหารการขนส่งยังสามารถสื่อสารข้อความไปยังพนักงานขับรถทุกคันได้ตลอดเวลา เพื่อประสิทธิภาพการขนส่งที่ดียิ่งขึ้น ช่วยลดการสื่อสารและค่าใช้จ่ายด้านโทรศัพท์ รวมทั้งช่วยเรื่องระบบการบำรุงรักษา ด้วยการกำหนดระยะรอบการบำรุงรักษาของรถไว้ล่วงหน้า และระบบจะแจ้งเตือนการบำรุงรักษาของรถแต่ละคันก่อนถึงกำหนด ลดปัญหาความเสียหาย มั่นใจได้ทุกรอบการเดินรถ
-เพิ่มความมั่นใจและสบายใจยิ่งขึ้น (SECURITY) : รถบรรทุกรุ่นมิมาโมริได้ติดตั้งระบบติดตามตำแหน่งรถแบบ Real Time มายังศูนย์ควบคุมตลอดเวลา เพื่อใช้ในการตรวจสอบตำแหน่งและสถานะของรถ รวมถึงยังสามารถทราบถึงเหตุการณ์ที่ผิดปกติได้แบบ Real Time โดยส่งอีเมล์ผ่านมือถือของผู้บริหารการขนส่งทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพื่อทำการตรวจสอบหรือช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังสามารถตั้งเขตพื้นที่ควบคุมที่จะได้รับการแจ้งเตือน หากพนักงานขับรถมีการนำรถเข้าไปจอดในพื้นที่ควบคุมเหล่านั้น หรือนำไปประยุกต์ใช้เพื่อแจ้งการไปถึงพื้นที่จุดหมายขนส่งสินค้าแล้ว นอกจากนั้นยังมีระบบแจ้งเตือนการซ่อมบำรุงล่วงหน้าของรถแต่ละคันก่อนถึงกำหนดผ่านทางอีเมล์ ทำให้ผู้คุมรถสามารถจัดตารางการเดินรถไว้ล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้งยังดึงข้อมูลโดยตรงจากสมองกล ECM จึงรายงานพฤติกรรมการขับได้แม่นยำกว่า ถูกต้องกว่า ครอบคลุมทุกด้านมากกว่า เหนือกว่าระบบ GPS ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดด้วยเทคโนโลยีที่เหนือชั้นกว่าของรถบรรทุกอีซูซุอัจฉริยะ รุ่น “มิมาโมริ” สุดยอดโซลูชั่นสำหรับการขนส่ง นิยามใหม่แห่งความคุ้มค่าทางธุรกิจจากอีซูซุเท่านั้น เป็นมากกว่ารถบรรทุกประหยัดน้ำมัน แต่จะช่วยพัฒนาพนักงานขับรถสู่การขับที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งประหยัดเชื้อเพลิง ปลอดภัย ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และช่วยให้สามารถบริหารงานด้านโลจิสติกส์ได้ดียิ่งขึ้น นำไปสู่การลดต้นทุนการบริหารงานขนส่งโดยรวมตลอดอายุการใช้งานของรถ เพื่อผลประกอบการที่ดียิ่งกว่า และโอกาสในการก้าวขึ้นสู่ผู้นำในวงการขนส่งเมืองไทยในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น