โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2556 17:30 น.
ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews
แอนโทนี เจนกินส์ ซีอีโอของบาร์เคลย์ ยอมรับว่า ปี 2012 ถือเป็นปีแห่งความยากลำบากของบาร์เคลย์ รวมถึงภาคธนาคารของอังกฤษในภาพรวมซึ่งถูกครอบงำด้วยการลงทุนแบบผลีผลามของเหล่านายแบงก์ที่คำนึงถึงแต่ผลกำไรระยะสั้นมากกว่าความมั่นคงในระยะยาว และละเลยความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า และสังคมในภาพกว้าง พร้อมเผยว่านอกจากมาตรการปลดพนักงานดังกล่าวแล้วทางบาร์เคลย์ยังต้องดำเนินการตัดลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กรให้ได้กว่า 1.7 พันล้านปอนด์ (ราว 79,247 ล้านบาท) ภายในปี 2015 อีกด้วย
เจนกินส์เพิ่งเข้ามารับหน้าที่ผู้บริหารของธนาคารบาร์เคลย์แทนที่บ็อบ ไดมอนด์ เมื่อ 5 เดือนก่อน หลังจากที่บาร์เคลย์ถูกหน่วยงานผู้คุมกฎของทั้งอังกฤษและสหรัฐฯ ปรับเงินกว่า 290 ล้านปอนด์ (ราว 13,522 ล้านบาท) จากความเกี่ยวข้องกับเรื่องฉ้อฉลอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของการทำกู้ยืมระหว่างธนาคารในกรุงลอนดอน รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยรายวันในการทำธุรกรรมระหว่างธนาคารในกลุ่มยูโรโซน
อย่างไรก็ดี เจนกินส์ซึ่งเพิ่งออกมาปฏิเสธไม่ขอรับเงินโบนัสประจำปี 2012 มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านปอนด์ (ราว 47 ล้านบาท) ไปเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ยอมเปิดเผยว่าสถานะที่ย่ำแย่ของธนาคารในขณะนี้จะกระทบการเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษหรือไม่ หลังจากมีข่าวลือว่าทางธนาคารบาร์เคลย์ซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักให้ศึกพรีเมียร์ลีกมาตั้งแต่ปี 2001 อาจจำต้องถอนตัวจากการสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลรายการดังกล่าวในอนาคตอันใกล้นี้
ทั้งนี้ บาร์เคลย์ซึ่งมีกิจการในมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ก่อตั้งมาตั้งแต่ ค.ศ.1690 และถือเป็นธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดเป็นลำดับที่ 6 ของโลกที่ยังคงดำเนินธุรกิจอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น