NIVEA Single Brand Strategy
ขนิษฐา อดิศรมงคล
กล่าวได้ว่า นีเวีย เป็นสกินแคร์แบรนด์เดียวที่ใช้กลยุทธ์ Single Brand มาโดยตลอดตั้งแต่เข้ามาในตลาดเมื่อ 23 ปีก่อน
นั่นคือ แบรนด์เดียวหลายตลาดแล้วออกสินค้าภายใต้ Umbrella Brand กระจายไปในทุก Category จนสามารถทำให้แบรนด์ 'นีเวีย' กลายเป็น Most Admired Brand จากการสำรวจของนีเวียเองพบว่าถ้าให้ผู้บริโภคนึกถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิว นีเวีย คือแบรนด์แรก
เพราะไม่ได้มีแค่สกินแคร์เท่านั้น แต่แทรกซึมในตลาดเพอร์ซันนัล แคร์ ทำให้แบรนด์นีเวียถูก Remind มากกว่าค่ายอื่นที่ใช้กลยุทธ์ Multi Brand
นี่คือปัจจัยแรกที่ผลักดันให้นีเวียประสบความสำเร็จ เพราะเท่ากับช่วยตอกย้ำ Positioning ของสินค้าแม้จะยอมรับบ้างว่า Single Brand Strategy ได้ Dilute Investment ไปบ้างก็ตามแต่ Image ของ Umbrella Brand กลับแข็งแกร่งมากขึ้น
เรียกได้ว่า Differentiate ในระดับ Helicopter View
อย่างที่ 2 คือ ปรัชญาทีม R&D ต่างจากเจ้าอื่นตรงที่ใช้เวลา 2-3 ปีต่อการลอนช์สินค้าซึ่งนานกว่า Competitors หลายเท่าตัว
“เราต้องมองเทรนด์ล่วงหน้า 2-3ปี โดยนำ Consumer Research ในไทย In-push ให้กับทีม R&D เพราะไม่สามารถคิดล่วงหน้า 1 ปี หรือว่า 6 เดือนแล้วก็บอกว่าฉันอยากได้สูตรนั้นสูตรนี้ อันนี้ Impossible สำหรับนีเวียต้องเป็นไปตาม High Standard ของเยอรมัน” คุณสุวรรณี รัถยาบัณฑิต ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) กล่าว
ทว่าเรื่องนี้กลายเป็นความต่างที่ส่งผลดีในระยะยาว
“ประโยชน์จะกลับไปที่ User ได้สิ่งที่ดีที่สุดบางครั้งก็รู้สึกว่า Standard สูงเกินไปหรือเปล่ากับบางสูตรที่ ผู้บริโภคอาจไม่ต้องการแต่ Long term เราคิดว่าจะดีกับแบรนด์ เพราะทำให้เรายืนอยู่ใน Premium Quality Positioning จากผลการวิจัยของ Mass Consumer นีเวีย เป็นแบรนด์ที่ได้ Reliability สูงสุดประมาณ 73% และ Usage มากที่สุดใน Skin car eBrand”
คุณสุวรรณี กล่าวว่า การรุกตลาดสกินแคร์ทั้ง 7 Categories ของ
นีเวียได้แก่ นีเวีย บอดี้ ,นีเวีย วิซาจ, นีเวีย ซัน, นีเวีย ลิปแคร์,
นีเวีย ดีโอ ,นีเวีย ฟอร์เมน และนีเวีย บาธแคร์ มีเพียงตลาดเฟซแคร์
และบอดี้แคร์เท่านั้นที่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นผู้นำซึ่งตลาดหลังแม้ไม่อยู่
อันดับหนึ่งก็จริงแต่ตอนนี้สัดส่วนนั้นใกล้เคียงกันมาก
ส่วนปัจจัยที่ทำให้ นีเวีย ยังไม่สามารถขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งในตลาดเฟซแคร์ได้ เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อย Focus กับตลาดนี้ เนื่องจากต้องการพุ่งเป้าใน Category ที่นีเวียอยู่ในอันดับ 1 ก่อน ซึ่งแผนการบุกไปทีละเซ็กเม้นต์นี้ประสบความสำเร็จมานักต่อนักแล้ว เห็นได้จาก นีเวีย ดีโอ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดจากเมื่อปี 2544 มีส่วนแบ่งเพียง 14% ขยับขึ้นมาเป็น 25% จนปัจจุบันมี 34-35% หรือนีเวีย ฟอร์เมน ที่กินแชร์ 41.6% จากตลาดรวม 2,000 ล้านบาท ทิ้งห่างเบอร์สองแบบขาดลอยทั้งนั้น
และ Challenge ต่อไปของ นีเวีย คือ ตลาดเฟซแคร์ ที่ตอนนี้ นีเวีย วิซาจ รั้งอยู่อันดับ 4
“ถ้าเปรียบสถานการณ์การแข่งขันในตลาดเฟซแคร์คงต้องบอกว่าเหมือน World War III ที่มีการทุ่มงบมากที่สุด ทั้งโฆษณา โปรโมชั่น หั่นราคาด้วยความที่ไซส์ของตลาดใหญ่ที่สุดเกือบ 8,000 ล้านบาท โดยหลักการของ Competitors รายอื่นก็จะเป็น Multi Brand Strategy ต่างจากนีเวีย ซึ่งวีธีจะทำให้ติดตลาดต้องอาศัย High Investment คราวนี้มันก็ต้องอยู่ที่ว่าใครมีเงิน สายป่านใครยาวกว่ากัน”
ไม่ใช่ยาวธรรมดาแต่ว่ากันเป็น 10 ปี ดังนั้นการฝ่า Barrier นี้ไม่ง่าย นีเวีย จึงพยายามลอนช์ Innovative Product อย่างต่อเนื่อง โดยเน้น Above the line เป็นตัว Communicate มากกว่า
“แม้โฆษณาจะใช้เวลาในการอธิบายคุณสมบัติน้อยไปสำหรับสินค้านวัตกรรมก็ตาม แต่ถ้าเข้าถึง Consumer Insight มันก็ Convince แบบโชะๆภายใน 15-30 วินาที มันอยู่ที่คุณเข้าใจ Consumer insight ยังไงแค่ไหนถ้าเข้าใจมากคุณก็สร้างจับใจได้มาก ส่วน Below the line เราก็ให้ความสำคัญแต่ต้องทำเป็น World Integrated Marketing Program กับสิ่งที่จะ Communicate กับ Consumer”
นีเวีย ย้ำว่า Innovative Product และ Communication ต้องไปด้วยกันในอัตรา 100% ทั้งคู่ แน่นอนว่าเมื่อคลอดสินค้าคุณภาพแล้ว ต้องปรับ Communication ในน้ำหนักเท่าๆกัน ไม่เช่นนั้นใน Long term จะไม่มี Repeat Order
ทั้งนี้ นีเวีย ส่ง Key Message ที่โดดเด่นมาโดยตลอดสอดแทรกคาแร็กเตอร์ไว้ใน Sub-brand
“เรามีวิธีสื่อสารในแต่ละ Category โดยบอก Effective ของสินค้าให้จับใจผู้บริโภค ยกตัวอย่าง นีเวียบอดี้จะสื่อความเป็นไวท์เทนนิ่งให้ผิวขาวจากภายในไม่มีใครทำได้ขาวอย่างเรา เพราะนี่คือ Breakthrough Ingredient ที่ Consumer ควรได้รับทราบ ”
แต่ไม่ว่าจะมีสินค้าภายใต้ Umbrella Brand ซักกี่ตัว Product Positioning ของแบรนด์นี้ชัดเจนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า NIVEA Stand for ‘Good Moisture Good Protection’
ไม่แปลกหาก Trustworthy ของนีเวียจะสูงมาโดยตลอดเช่นนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น