ย้อนรอยประวัติความเป็นมาของ
Google
ช่วงปี
1995-1997
ปี
แห่งการเริ่มต้น
เมื่อปี
1995
ขณะนั้น
Larry
อายุ 24
ปี และ Sergey
อายุ 23
ปี
ด้วยบุคลิกที่กล้าคิดกล้าแสดงออกในบรรดาเรื่องต่าง
ๆ ที่ตัวเองสนใจของทั้งคู่
ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเรื่องของการสร้างเทคโนโลยีระบบจักรกลที่สามารถดึงสืบค้นข้อมูลที่มีขนาดใหญ่
ๆ ได้
ซึ่งยังเป็นหัวข้อที่สำคัญและสามารถพัฒนาต่อได้อีกมากมายในด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับการขนถ่ายข้อมูล
เดือนมกราคมปี
1996
Larry Page และ
Sergey
Brin ได้เริ่มค้นคว้าเทคโนโลยีจักรกลค้นหาหรือว่า
search
engines ที่สมัยนั้น
ถูกเรียกว่า BackRub
ซึ่งหมายถึงความสามารถอันพิเศษที่สามารถสามารถจะเข้าไปวิเคราะห์
“back
links” ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ต่าง
ๆ ได้ โดยในช่วงแรก ๆ นั้น
การทำงานของทั้งคู่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะยังขาดปัจจัยด้านทุนทรัพย์เหมือนกับเด็กนักศึกษาทั่วไป
เมื่อเวลาผ่านไป ปรากฎว่าเทคโนโลยี
BackRub
กลับเริ่มมีชื่อเสียงและเป็นที่กล่าวขวัญตื่นตาตื่นใจไปทั่วมหาวิทยาลัยกับระบบจักรกลค้นหาที่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในสมัยนั้น
ปี
1998
สัญญาณของความสำเร็จ
ทั้ง
2
หนุ่มได้พยายามสานต่อรากเหง้าของเทคโนโลยีที่ตนเองคิดค้นขึ้นมาให้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง
โดยใช้หกพักของ Larry
มาเป็นห้อง
Data
center ห้องแล็บแรกของ
Google
ซึ่งในช่วงแรกทั้งคู่ก็ไม่ได้สนใจที่จะจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อรองรับเทคโนโลยีนี้ออกไปสู่ท้องตลาด
ขณะนั้นเว็บไซต์ของ Yahoo!
เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ของพวกเขา
แต่เหมือนฟ้าดลใจ เพราะตอนนั้น
Yahoo!
ไม่สนใจระบบ
Search
engine และมองว่ากลุ่มลูกค้าของยาฮูไม่จำเป็นต้องใช้จักรกลค้นหาแบบนี้
และแนะนำให้ Larry
และ Sergey
ตั้งบริษัทขึ้นมารองรับเองจะดีกว่า
เมื่อได้รับคำตอบแบบนี้
ก็เลยทำให้ทั้ง 2
คนตัดสินใจที่จะเริ่มต้นสร้างอาณาจักรของตนเองขึ้นมา
สิ่งแรกที่พวกเขาคิดก็คือ
หาเงินทุนสำหรับใช้เป็นงบประมาณใจการย้ายออฟฟิศออกไปจากหอพักนักศึกษาแห่งนี้
และหาทางจ่ายเงินค่าฮาร์ดดิสก์ที่พวกเขาลงทุนที่จะมาช่วยโครงการนี้ให้สำเร็จ
คนแรกที่มองเห็นศักยภาพของ
Search
engine ก็คือ
Andy
Bechtolsheim ผู้ร่วมก่อตั้ง
Sun
Microsystems เมื่อ
2
หนุ่มได้นำโปรแกรมตัวอย่างเข้าไปนำเสนอ
และได้มีการพูดคุยกันทุกเช้า
ปี
1999
เงินทุนก้อนใหญ่มาแล้ว
วันที่
7
มิถุนายน
1999
Google ก็ได้ประกาศว่าได้มีผู้ร่วมทุนขนาดใหญ่เข้ามาอีก
2
รายคือ Mike
Moritz แห่งกลุ่มบริษัทเงินทุน
Sequoia
และ John
Doerr ของบริษัท
Kleiner
Perkins
มานั่งอยู่ในตำแหน่งคณะกรรมการบริหารของบริษัทพร้อมกับเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเข้ามาอีกถึง
25
ล้านดอลลาร์
และโปรแกรม Search
Engines ก็ได้ถูก
AOL/Netscape
นำไปใช้สำหรับเป็นเครื่องมือด้านในเว็บไซต์
ซึ่งมียอดใช้งานสูงถึง 3
ล้านครั้งต่อวันเลยทีเดียว
เริ่มปรากฏ
ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
แล้ววันหนึ่ง Andy
ได้พูดประโยคที่กลายเป็นตำนานของ
Google
นั่นก็คือ
“แทนที่จะมาพูดกันแต่เรื่องของรายละเอียดของโปรแกรม
เอาเป็นว่าผมเขียนเช็คให้กับคุณเลยดีกว่า”
แล้วเช็คเงินจำนวน 1
แสนดอลลาร์ก็ทำให้
Google
Inc. ถูกก่อตั้งขึ้นมาอย่างเป็นทางการนับแต่การพูดคุยกันในวันนั้น
เมื่อร่วมกับเงินทุนจากญาติพี่น้องเพื่อนฝูงและคนที่มองเป็นอนาคตของ
Google
สุดท้ายเงินลงทุนเบื้องต้นในการสร้างอาณาจักรของ
Google
ก็เลยลงเอยของการเริ่มต้นที่
1
ล้านดอลลาร์
เดือนกันยายน
ปีเดียวกันนี้ที่ Menlo
Park แคลิฟอร์เนียก็กลายเป็นที่พำนักใหม่ของ
Google
Inc. และได้
Craig
Silverstein มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยี
หลังจากนั้นเว็บไซต์ Google.com
ก็เริ่มออกสู่สายตาของนักท่องเว็บไซต์ทั่วโลก
มีคนเข้ามาใช้บริการค้นหาเว็บไซต์ในช่วงแรกที่ยังเป็นเบต้าเวอร์ชันสูงถึงวันละกว่าหมื่นครั้ง
พอถึงเดือนธันวาคม หนังสือ
PC
Magazine ได้จัดเว็บไซต์ของ
Google
ให้เป็นส่วนหนึ่งของ
Top
100 Web Sites และ
Search
Engines ประจำปี
1998
มาถึงตอนนี้ชื่อของ
Google
ก็ไม่ได้เป็นชื่อโนเนมอีกต่อไป
แต่กลายเป็นแบรนด์เนมระดับโลกไปเรียบร้อยแล้ว
ปี
2000
ปีแห่งการสยายปีกของ
Google
เป็นปีที่อาณาจักรของ
Google
เริ่มค้นคว้าเทคโนโลยีใหม่
ๆ เข้ามาเสริมอย่าง Google
Directory และบริการค้นหาข้อมูลผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สาย
รวมถึงความสามารถในการให้บริการภาษาต่าง
ๆ สำหรับใช้ค้นหาลิงก์เว็บไซต์ได้ถึง
10
ภาษาทั่วโลก
วันที่
26
เดือนมิถุนายน
Google
และ Yahoo!
ได้ประกาศการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันโดยทั้ง
2
บริษัทจะมีการและเปลี่ยนเทคโนโลยีซึ่งกันและกัน
เพื่อรองรับบริการที่เข้ามาสูงถึง
18
ล้านครั้งต่อวัน
และตอนนี้เว็บไซต์ NetEase
ของประเทศจีน
และ Biglobe
ของญี่ปุ่น
ต่างก็ใช้ระบบค้นหาของ
Google
เข้ามาใช้ในเว็บไซต์ของตนเป็นครั้งแรก
บริการใหม่
ๆ ของ Google
ในช่วงปีนี้
ได้แก่ AdWords
บริการคีย์เวิร์ดค้นหาเกี่ยวกับการโฆษณาสำหรับธุรกิจองค์กรขนาดเล็ก
และพอมาถึงช่วงปลายปี 2000
Google Toolbar ก็ได้เผยโฉมออกมาสู่ท้องตลาดเว็บไซต์
ซึ่งช่วยทำให้บริการค้นหาของ
Google
สามารถทำได้อย่างง่าย
ๆ โดยที่
ยูสเซอร์ที่ใช้งานไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของ
Google
อีกต่อไป
สิ้นปี
2000
Google สามารถทำยอดสถิติคนใช้บริการค้นหา
Search
Engines ได้สูงถึงวันละ
100
ล้านคน
การใช้งานของโปรแกรมนี้แพร่หลายไปกลุ่มคนทุกระดับที่มีการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์
ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา
นักวิจัยค้นคว้า
รวมถึงบริการค้นหาแบบไร้สายนั้นก็ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย
เพราะอุปกรณ์มือถือนั้นมีการใช้งานกันทั่วโลก
และเมื่อโทรศัพท์มือถือสามารถเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
การมีเครื่องมือสำหรับใช้ค้นหาเว็บไซต์ต่าง
ๆ ก็เป็นเรื่องจำเป็นเช่นกัน
ปี
2001
การแตกไลน์ด้านการบริการครั้งสำคัญ
ในเดือนกุมภาพันธ์
Google
ได้เริ่มรุกเข้าสู่ธุรกิจดอทคอมอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
เมื่อได้เข้าไปถือหุ้นซื้อบริษัท
Deja.com
ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านระบบฐานข้อมูลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่
โดยการนำระบบฐานข้อมูลเหล่านี้ให้กลายมาเป็นฟอร์แมตที่สามารถใช้
Search
Engines เข้าไปค้นหาได้
ด้วยความสำเร็จที่ก้าวเข้ามาถึงจุดนี้ในช่วงไตรมาสที่
4
ของปลายปี
2001
Google
ก็เริ่มประกาศให้ชาวโลกได้ทราบว่าตอนนี้ธุรกิจออนไลน์ของตนกำลังทำรายได้และผลกำไรให้อย่างเป็นล่ำเป็นสันแล้ว
ชื่อเสียงของ
Google
เริ่มขจรขจายไปทั่วโลก
เมื่อเดือนตุลาคม Google
ได้ตกลงเซ็นสัญญาร่วมกับ
Lycos
Korea ในการนำจักรกลค้นหาของ
Google
ไปใช้บริการในด้านกลุ่มข่าวหรือว่า
Usenet
Archive ใน New
Group สำหรับกลุ่มยูสเซอร์ที่อยู่ในฝั่งเอเชีย
และ Google
ก็สามารถรองรับภาษา
ทั่วโลกได้ถึง 26
ภาษาแล้ว
รวมถึงภาษาอาราบิกและภาษาตุรกี
ในเดือนธันวาคม
Google
ได้ขยายความสามารถในการให้บริการไปอีกขั้นหนึ่ง
นอกเหนือไปจากระบบการค้นหาข้อมูลส่วนทีเป็นตัวหนังสือ
โดยบริการใหม่ที่ชื่อว่า
“Google
Image Search” ซึ่งเป็นบริการค้นหาภาพแบบออนไลน์โดยใช้ระบบดัชนีค้นหา
รวมไปถึงบริการซื้อขายของออนไลน์Google
สามารถเข้าไปค้นหาอีเมล์ออเดอร์แคตาล็อกได้มากกว่า
1,100
รายการ
อย่างง่ายดาย
เทียบกับระบบเดิมที่ต้องใช้โทรศัพท์หรือว่าแฟกซ์ออเดอร์เป็นหลัก
เดือนธันวาคมนี้เหมือนจะเป็นเดือนแห่ง
Google
โดยแท้
เพราะว่าระบบค้นหาของ Google
นั้นมีฐานข้อมูลที่สามารถค้นหาเอกสารที่เป็น
Web
Documents ได้สูงถึง
3
พันล้านรายการ
เป็นการพังทลายกำแพงกั้นเทคโนโลยีด้านข้อมูลแบบเติม
ๆ
และทำให้โลกของระบบข้อมูลข่าวสารนั้นถูกย่อลงมาเหลือเพียงแค่ปลายนิ้วคลิ้กเท่านั้นเอง
ปี
2002
สานต่อเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ
ในระดับโมเลกุล
เดือนกุมภาพันธ์
2002
Google ได้รับรางวัล
“Search
Engine Watch Awards”
ซึ่งเป็นรางวัลที่ได้จากการลงความเห็นของเว็บมาสเตอร์จากทั่วโลกที่ให้คะแนน
Google
ในฐานะบริการยอดเยี่ยมด้านต่าง
ๆ เช่น Best
Image Search Engine, Best Design, Most Webmaster Friendly Search
Engine และบริการ
Best
Search Feature
นวัตกรรมในช่วงปีนี้ของ
Google
มีการพัฒนาเครื่องมือช่วยเขียนโปรแกรมเว็บแอพพลิเคชัน
(Application
Programming Interfaces-APIs) ซึ่งช่วยทำให้องค์กรหรือว่าบริษัทต่าง
ๆ
สามารถค้นหาเอกสารที่เก็บและหมุนเวียนอยู่ภายในบริษัทได้นับเป็นพันล้านฉบับ
และบริการใหม่ Google
Compute ที่เพิ่มเข้าไปไว้ใน
Google
Toolbar
โดยเป็นโปรแกรมที่สามารถเข้าไปตรวจค้นได้ว่าช่วงจังหวะเวลาไหนที่คอมพิวเตอร์ของคุณเกิดไม่ยอมทำงานขึ้นมา
โปรแกรมจะเข้าไปตรวจสอบและกระตุ้นให้ระบบทำงานตามหลักตรรกะทางคณิตศาสตร์คล้ายกับระบบการออกแบบยาเพื่อให้เข้าสู่ระบบการทำงานของร่างกายนั่นเอง
มีอีกบริการหนึ่งของ
Google
ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ก็คือ
บริการ AdWords
บริการเกี่ยวกับระบบโฆษณาโดยการใช้วิธีวัดแบบ
Cost-Per-Click
(CPC)
เพื่อทำให้โฆษณานั้นสามารถสื่อไปถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายต้องการจะชมสื่อโฆษณาตามที่ตัวเองต้องการ
โดยไม่จำเป็นต้องยัดเยียดโฆษณาแบบเหวี่ยงแหเหมือนเดิมอีกต่อไป
เรียกว่าตรงใจทั้งผู้บริโภคและบริษัทที่ต้องการจะขายสินค้าของตนได้มากที่สุด
มาถึงเดือนกันยายนปีเดียวกันนี้
Google
ได้เปิดเว็บเซอร์วิส
Google
News มาให้บริการสำหรับแหล่งข้อมูลข่าวสารทั่วโลก
เป็นบริการฟรีที่ยูสเซอร์สามารถสแกนค้นหาหัวข้อข่าวใหม่
ๆ ได้ตลอดเวลา
และช่วงส่งท้ายปี 2002
คือในเดือนธันวาคม
เราก็ได้เห็นบริการ Froogle
บริการค้นหาสินค้าที่มีการจัดออกมาเป็นหมวดหมู่ต่าง
ๆ มากมาย
ซึ่งมีเว็บไซต์ให้คุณเลือกชอปปิ๊งนับล้านเว็บไซต์เลยที่เดียว
ปี
2003
ปีแห่งการพลิกโฉมใหม่ให้กับวงการโฆษณา
ปี
2003
เป็นก้าวทีสำคัญในการพลิกโฉมให้กับวงการโฆษณาออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กับบริการ
Google
AdSense บริการที่ช่วยทำให้เว็บไซต์ต่าง
ๆ ที่เข้ามาใช้บริการของ
Google
สามารถสร้างรายได้ให้กับเว็บไซต์ของตนเอง
ด้วยการเพิ่มมูลค่าหน้าเว็บไซต์ของตนเองเพียงแค่การคลิ้กหน้าโฆษณาบนเว็บไซต์เท่านั้นเอง
พร้อมกันนั้น
Google
Toolbar เวอร์ชัน
2.0
ก็ได้ออกสู่ท้องตลาดพร้อม
ๆ กับ Google
Deskbar คราวนี้แถบเครื่องมือ
Toolbar
ของ Google
ได้เพิ่มประสิทธิภาพในด้านของระบบป้องกัน
Pop-up
โฆษณาของเว็บไซต์ต่าง
ๆ (Pop-Up
blocker) และระบบ
Form
Filler
ที่ช่วยย่นเวลาในการกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวของคุณในกรณีที่คุณต้องการไปสมัครใช้บริการที่เว็บไซต์อื่น
ๆ และต้องมีการกรอกข้อมูลสมัครสมาชิกอยู่เป็นประจำ
รวมถึงทูลบาร์ยูทิลิตี้อื่น
ๆ ที่เข้ามาเสริม เช่น
ระบบเครื่องคำนวณ
หรือระบบค้นหาสายการบิน
เป็นต้น
ปี
2004
การประกาศศักดาของ
Gmail
และโปรแกรม
Picasa
มาถึงปี
2004
ปีที่ระบบฐานข้อมูลดัชนีค้นหาของ
Google
มีจำนวนสูงถึง
4.28
พันล้านหน้า
เว็บเพจ Google
ได้รับตำแหน่ง
“Brand
of the Year” ประจำปี
2003
รวมถึงสถานีช่องข่าว
ABC
News ก็ให้เกียรติ
Larry
กับ Sergey
ในฐานะ
“Person
of the Week”
เดือนกุมภาพันธ์
วันที่ 17
Google ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า
ตอนนี้ระบบดัชนีฐานข้อมูลของ
Google
มีอยู่สูงถึง
6
พันล้านรายการ
โดยแบ่งออกเป็นดัชนีรายชื่อเว็บไซต์
4.28
พันล้านชื่อเว็บเพจที่มีภาพเป้นส่วนประกอบอีก
880
ล้านเว็บไซต์
และมีระบบส่งข้อความ Usenet
อีก 845
ล้านกลุ่ม
กลายเป็นระบบฐานข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการทั้งหมด
บริการใหม่
ๆ ในช่วงต้นปี 2004
นี้ก็มี
บริการ Local
Search ซึ่งเป็นบริการแผนที่ประจำเมืองหรือรัฐต่าง
ๆ ในอเมริกา
ยูสเซอร์สามารถคลิ้กเข้าไปค้นหาร้านค้าหรือว่าแหล่งท่องเที่ยวต่าง
ๆ ที่สำคัญได้และบริการ
Personalized
search อันนี้ก็เป็นบริการที่ต่อยอดมาจากคนที่เป็นสมาชิกอีเมล์ของ
Google
ยูสเซอร์สามารถเข้าไปค้นหารายชื่อของดัชนีค้นหาต่าง
ๆ ในอดีตที่คุณเคยทำเอาไว้
โดยไม่จำเป็นต้องมาเริ่มค้นหาไหม่อีก
เพียงแต่ว่าถ้าจะใช้บริการนี้คุณจะต้องเข้าไปจดทะเบียน
Google
Account เสียก่อน
วันที่
1
เมษายน
Google
ได้ประกาศบริการใหม่ล่าสุดที่ท้าทายยักษ์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น
Yahoo!
หรือว่า
Microsoft
MSN กับบริการ
Web-based
mail service ที่เรียกว่า
Gmail
ซึ่งให้บริการพื้นที่เก็บจดหมายให้กับยูสเซอร์กว่า
2.6
กิกะไบต์
ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่เก็บจดหมายที่มากกว่า
Yahoo!
สำหรับฟรีอีเมล์ที่ให้พื้นที่
1
กิกะไบต์เสียอีก
บริการใหม่ที่เกี่ยวกับการค้นหารูปภาพ
Picasa
ได้ฤกษ์เปิดตัวในวันที่
13
กรกฎาคม
บริการที่ทำให้คุณสามารถบริหารภาพถ่ายดิจิตอลของคุณได้อย่างง่าย
ๆ
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการจัดเก็บภาพให้เป็นหมวดหมู่หรือว่าการแชร์ภาพถ่ายของคุณไปให้กับคนอื่น
ๆ
วันที่
14
ตุลาคม
Google
ได้นำบริการ
Google
Desktop Search เวอร์ชันแรกออกสู่ท้องตลาดในฐานะฟรีแวร์
และบริการ Google
SMS สำหรับส่ง
SMS
เข้ากับเครื่องโทรศัพท์มือถือของคุณ
โดยไม่ว่าคุณจะอยู่จะไหนในโลกที่มีเครือข่ายสัญญาณของโทรศัพท์มือถือ
ปิดท้ายในเดือนธันวาคม
บริการส่งท้ายปีของ Google
คือ Google
Groups เวอร์ชันล่าสุดซึ่งเป็นบริการ
Usenet
ที่มีกลุ่มหัวข้อต่าง
ๆ ให้เลือกถึง 1
พันล้านเรื่องต่อยอดมาตั้งแต่ปี
2001
เวอร์ชันนี้
ยูสเซอร์สามารถที่จะสร้างและบริหารอีเมล์แบบเป็นกรุ๊ปส่วนตัวของคุณเอง
สมาชิกในกลุ่มสามารถเข้ามาพูดคุยถกปัญหาหรือว่าประเด็นกันได้ทุกเรื่อง
และบริการ Google
Print
ซึ่งเป็นบริการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างห้องสมุดของมหาวิทยาลัย
Harvard,
Stanford, Michigan, Oxford และห้องสมุดสาธารณะของกรุงนิวยอร์ก
ที่เปิดโอกาสให้ยูสเซอร์สามารถเข้าไปสแกนดูหน้าตัวอย่างหนังสือที่ได้รับการเก็บสะสมเอาไว้ในห้องสมุดได้
โดยใช้ดัชนีค้นหาของ Google
ปี
2005
กับการมาของ
Google
Earth
นับได้ว่าเป็นปีของ
Google
ที่มีบริการใหม่
ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก
ตั้งแต่โปรแกรมเวอร์ชันล่าสุดของ
Google
Desktop Search และ
Google
Search for the Enterprise บริการจัดการงานด้านข้อมูลข่าวสาร
ระบบรักษาความปลอดภัย
และระบบการควบคุมด้าน IT
ขององค์กร
ส่วนบริการหลังอื่น
ๆ ของ Google
ในปี 2005
นี้ก็ยังมี
Google
Maps, Google Talk, Google Blog Search
และที่โด่งดังเป็นข่าวหน้าหนึ่งในบ้านเราก็คือ
บริการ Google
Earth
เทคโนโลยีภาพถ่ายดิจิตอลจากดาวเทียมที่ทำให้คุณสามารถเห็นแผนที่โลกทั้งโลกทั้งจากระยะใกล้และระยะไกลเพียงแค่การคลิกไม่กี่คลิกบนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั่นเอง
ปี
2006
ปีแห่งการเข้าสู่ระบบวิดีโอออนไลน์
ถือได้ว่าปี
2006
นี้เป็นปีทองของ
Google
ที่ขยายไลน์ธุรกิจออกไปสู่สังคมคนบันเทิงที่มีฐานผู้ชมเป็นจำนวนมหาศาลคอยรองรับกับบริการ
Google
Vides Store
บริการร้านเช่าวิดีโอแบบออนไลน์ที่คุณสามารถเข้าไปชมคุณภาพวิดีโอ
ทั้งระบบเช่าหรือว่าดาวน์โหลดซื้อรายการต่าง
ๆ จากรายการกีฬาดัง ๆ
ภาพยนตร์ทีวีซีรีส์เรื่องดัง
รายการทีวีโชว์
หรือว่ามิวสิควิดีโอแบบเว็บออนไลน์ได้จากเว็บไซต์แห่งนี้
นอกจากนั้น
Google
ยังเปิดโอกาสให้คุณสามารถเข้าไปดาวน์โหลดสุดยอดของโปรแกรมรวมฮิตของ
Google
นั่นก็คือ
Google
Pack
เป็นชุดโปรแกรมที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของบราวเซอร์และทำให้การท่องเว็บของคุณนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิมมากมายหลายเท่าเลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้เป็นปูมหลังหรือประวัติของ
Google
โดยสังเขป
ซึ่งผมได้รวบรวมเอามาสรุปให้ได้อ่านกันเพราะว่า
Google
นั่นเริ่มต้นจากห้องแล็บ
ซึ่งเป็นห้องพักในมหาวิทยาลัยของ
2
นักศึกษา
ที่มีอุดมการณ์และความคิดที่เหมือนกัน
มาถึงวันนี้ธุรกิจของ 2
หนุ่มนั้นแตกไลน์ไปแบบกู่ไม่หยุดแล้ว
ถ้านับเป็นมูลค่าก็เป็นพันเป็นหมื่นล้านดอลลาร์
ถือได้ว่าเป็นกรณีศึกษาทางด้านไอทีที่เราสามารถนำไปศึกษาและเป็นตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
ประวัติโดยย่อของ
Sergey
Brin
ตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบัน
:
Co-Founder & President. Technology
Sergey
Brin เดิมเกิดในกรุงมอสโคว์
จบการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์
โดยได้รับคะแนนเกียรตินิยมจากสาขาวิชา
mathematics
and computer science และเข้าเรียนต่อหลักสูตรปริญญาโท
Ph.D.
ทางด้าน
Computer
Science จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
ที่ซึ่งเขาได้พบกับ Larry
Page และทำงานในโครงการสร้าง
Search
Engine ร่วมกันตั้งแต่ปี
1998
Sergey
Brin
เป็นนักวิจัยดาวรุ่งที่มีผลงานด้านการค้นคว้าเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลมากมายที่ได้รับการตีพิมพ์
อาทิเช่น Extracting
Patterns and Relations from the World Wide Web; Dynamic Data Mining:
A New Architecture for Data with High Dimensionality, Which he
published with Larry Page; Scalable Techniques for Mining Casual
Structures; Dynamic Itemset Counting and Implication Rules for Market
Basket Data. และ
Beyond
Market Baskets: Generalizing.
ปัจจุบันนอกเหนือจากงานบริการใน
Google
แล้ว
เขามักจะได้รับเชิญให้ออกไปขยายพูดคุยในเรื่องของเทคโนโลยีของระบบดัชนีค้นหาในอนาคต
ตามรายการชื่อดังต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น World
Economic Porum and the Technology, Entertainment and Design
Conference หรือว่าตามสถานีโทรทัศน์ต่าง
ๆ อย่าง CNBC,
ABC และ CNN
เป็นต้น
ประวัติโดยย่อของ
Larry
Page
ตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบัน
:
Co-Founder & President. Products
Larry
Page หนึ่งในสองผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของ
Google
เป็นบุตรชายของ
Dr.
Carl Victor Page
ศาสตราจารย์ที่เสนอวิชา
Computer
science ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ลารรี่เริ่มหลงใหลในคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อายุได้
6
ปี
และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนด้วยคะแนนระดับเกียรตินิยมทางด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
ขณะที่ลารรี่ได้เข้าเรียนหลักสูตร
Ph.D
ทางด้าน
Computer
science ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
ในปี 1998
ลารรี่ได้พบกับเพื่อนคู่หู
Sergey
Brin ที่มีอุดมการณ์เดียวกันและร่วมกันพัฒนา
Google
ขึ้นมาจนกระทั่งลารรี่จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและในปี
2004
ลารรี่ก็ได้รับรางวัล
Marconi
Prize
และได้รับแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของสถาบันวิศวกรรมแห่งชาติมาจนถึงทุกวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น