วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แคนนอนส่ง 3 รุ่นท็อปชนคู่แข่งหวังเบอร์1ตลาดกล้องทุกกลุ่ม

Pic_247047
ที่มาhttp://www.thairath.co.th/content/tech/247047
แคนนอน ลุยเดินหน้าสู่เป้ายอดขายทะลุ 10,000 ล้านบาทเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดลงสู่ตลาดพร้อมกันถึง  23 รุ่น อาทิ รุ่นท็อป EOS 5D MarkIII, Powershot G1X และ IXUS HS series พร้อมเทคโนโลยีใหม่ เป็นหมัดเด็ดชนคู่แข่ง หวังรักษาส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่ง...

นายวาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ ธุรกิจกล้องดิจิตอลมีการแข่งขันสูงขึ้นมาก แคนนอน ในฐานะผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลในประเทศไทย จึงเตรียมกลยุทธ์เพื่อบุกตลาดกล้องเต็มรูปแบบในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 พร้อมท้าชนคู่แข่งในทุกประเภทสินค้าด้วยทัพกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่จำนวน 23 รุ่น ประกอบด้วย กล้องดิจิตอลคอมแพ็ค กล้องดีเอสแอลอาร์ และกล้องวีดีโอ ที่มาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสนุกกับการถ่ายภาพ และพึงพอใจกับประสิทธิภาพของกล้องมากขึ้น ทั้งนี้ แคนนอนมั่นใจว่า จะยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดอ้นดับหนึ่งได้ต่อไปจากการรุกตลาดครั้งนี้ ด้วยเป้าหมายการตลาด 6,346 ล้านบาท และสามารถบรรลุเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของแคนนอนที่ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 24% หรือมียอดขายรวมตลอดทั้งปีทะลุ 10,000 ล้านบาท


ด้าน นายวรินทร์ ตันติพงศ์พานิช ผู้อำนวยการอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป  ส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บ.แคนนอนฯ กล่าวว่า ตลาดกล้องดิจิตอล ที่เป็นคอมแพ็ค ในปีนี้จะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงมากขึ้น และภาพรวมของตลาดกล้องดิจิตอลคอมแพ็คมีแต่ปรับตัวลดลง รวมกับราคากล้องจะมีการปรับตัวลดลง เฉลี่ยปีละ 10-15% เชื่อว่าปีนี้ขนาดกล้องดิจิตอลแบบคอมแพ็คจะอยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้านเครื่อง หรือ มูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท หากดูจากผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในปีนี้ จะเน้นว่าเรามุ่งเน้นไปที่คุณภาพของกล้อง มากกว่าที่จะมาแข่งขันเรื่องราคา ทั้งนี้สัดส่วนการขายกล้องคอมแพ็คในราคาระดับบนอยู่ประมาณ 30% โดยกล้องดิจิตอลคอมแพ็คของแคนนอนราคาถูกสุดอยู่ประมาณ 2,400 บาท ขณะที่ราคากล้องราคาถูกในตลาดเฉลี่ยจะอยู่ที่ไม่เกิน 2,000 บาท

ผู้อำนวยการอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป  ส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บ.แคนนอนฯ กล่าว กล่าวอีกว่า นอกจากนี้แคนนอนยังมีแผนการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทาง คอนเซ็ปต์สโตร์ของแคนนอนที่ปีนี้จะเปิดอีก 6 สาขาเพื่อทำให้ตลาดกล้องดิจิตอล กลุ่มคอมแพ็คในต่างจังหวัดมีโอกาสขยายตัว โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากลูกค้าในกรุงเทพฯ 70% กับต่างจังหวัด 30% ทำให้แคนนอนยังเห็นว่าต่างจังหวัดยังมีโอกาสเติบโตได้มากกว่านี้ ดังนั้นแคนอนก็จะพยายามชิงอันดับ 1 กลับมาให้ได้ โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดมาอยู่ที่ 23% ขณะที่ตลาดกล้องดีเอสแอลอาร์แม้ว่าคู่แข่งรายสำคัญจะบุกตลาดหนักมากขึ้น แต่แคนนอนจะพยายามเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้เป็น 65-70% จากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 60-65% โดยมูลค่าตลาดรวมปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ประมาณ 3,065 ล้านบาท

สำหรับผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 ประกอบด้วย EOS-1D X กล้องดีเอสแอลอาร์แบบฟูลเฟรมที่เร็วที่สุดในโลก EOS 5D Mark III กล้องฟูลเฟรมระดับมืออาชีพ โดดเด่นทั้งการถ่ายภาพนิ่งและถ่ายภาพเคลื่อนไหว PowerShot G1 X กล้องดิจิตอลคอมแพ็คระดับโปรซูมเมอร์ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ CMOS เลนส์ UA ใหม่ และ DIGIC 5 จากกล้องดีเอสแอลอาร์ มาใช้ในกล้องคอมแพค IXUS HS series กล้องดิจิตอล และกล้องวีดีโอไฮเดฟฟินิชั่น LEGRIA ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Wi-Fi สุดล้ำ และแอพพลิเคชั่น Camera Window ที่พัฒนาขึ้นระหว่างแคนนอนและแอปเปิล ในการเชื่อมต่อกล้องดิจิตอลเข้ากับสมาร์ทโฟนระบบ iOS เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำภาพถ่ายคมชัด มีคุณภาพสูง เพราะถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลที่แท้จริง แบ่งปันใน Social Network ต่างๆได้ในทันที


ขณะที่ เทคโนโลยีสำคัญที่เป็นแกนหลักในกล้องดิจิตอลของแคนนอนรุ่นใหม่ครั้งนี้ ได้แก่  ชิปประมวลผลภาพอัจริยะใหม่ DIGIC5+ ในรุ่น EOS 1DX และ 5D Mark III และ DIGIC5 ในกล้องดิจิตอลคอมแพ็ค  ข้อดีคือ ช่วยลดสัญญาณรบกวนเมื่อถ่ายด้วยค่าความไวแสงสูง และเมื่อทำงานร่วมกับเซนเซอร์ CMOS ความละเอียดภาพที่ได้เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า CMOS Sensor Technology โดย EOS 5D Mark III ใช้เซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรมความละเอียดสูงถึง 22.3 ล้านพิกเซล สามารถสร้างสรรค์ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวที่มีคุณภาพสูง และยังคงความสมดุลระหว่างความละเอียดในการแสดงผลของภาพ ลดสัญญาณรบกวนภาพได้เป็นอย่างดี ให้คมชัดมากกว่าเดิม แม้ถ่ายภาพในที่แสงน้อย


กล้อง PowerShot G1X ใช้เซนเซอร์ CMOS ขนาด 1.5 นิ้ว ที่ใหญ่ที่สุดในกล้องคอมแพ็คของแคนนอนทั้งหมด ทำให้เก็บรายละเอียดภาพได้ครบถ้วน ให้สีสันสดใส และเมื่อทำงานร่วมกับ F2.8 จะให้ระยะชัดตื้นที่โดดเด่นกว่ากล้องรุ่นอื่นๆ

ขณะที่ เทคโนโลยี HS System ระบบที่ช่วยจัดการเกี่ยวกับสัญญาณรบกวนและแสง Multi-Area White Balance ที่ทำให้สีออกมาเป็นธรรมชาติเช่นเดียวกับที่ตาเห็น นับจากนี้ไม่ว่าจะถ่ายภาพที่ไหนหรือเมื่อไรกล้องถ่ายภาพจากแคนนอนสามารถผลิตภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด


ส่วน เทคโนโลยี Wi-Fi ในกล้องดิจิตอล IXUS 510 HS และ IXUS 240 HS และกล้องวีดีโอ LEGRIA HFM 52 , HFR38 และ HFR 36 ทำให้ผู้ใช้สามารถอัพโหลดไฟล์ภาพถ่าย หรือวีดีโอจากกล้องแคนนอน ไปยัง iPhone และ iPad รวมทั้งเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook  หรือ  YouTube และส่งอีเมล์ ผ่าน แอพพลิเคชั่น Canon Camera Window บนสมาร์ทโฟนระบบ iOS วิธีการนี้ช่วยลดขั้นตอนในการดาวน์โหลดภาพสู่เครื่องก่อนอัพโหลดขึ้นออนไลน์  และคุณภาพของภาพถ่ายที่ได้รับดีกว่าเมื่อเทียบกับภาพที่ถ่ายด้วยกล้องในสมาร์ทโฟน เนื่องจากปัจจุบันผู้ใช้งานส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการแค่ความสะดวกในการอัพโหลดภาพแบบเรียลไทม์ แต่ต้องการคุณภาพของภาพถ่ายด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น