วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

"เวิลด์แก๊ส" ฮุบ "ปิคนิค" กรุงไทย-ยูโอบีไฟเขียวแผนฟื้นฟูกิจการ

Pic_335514
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
29 มีนาคม 2556, 06:00 น.

ที่มาhttp://www.thairath.co.th/content/eco/335514
เจ้าหนี้เปิดไฟเขียว “เวิลด์แก๊ส” เป็นผู้ร่วมทุนรายใหม่ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น มั่นใจการฟื้นฟูกิจการเดินหน้าฉลุย ชี้ “ปิคนิค–เวิลด์แก๊ส” ทำธุรกิจเหมือนกัน พร้อมตั้งเงื่อนไขจ่ายเงินเจ้าหนี้ 1,700 ล้านบาท ภายใน 120 วัน ส่วนอีก 100 ล้านบาทให้แปลงหนี้เป็นทุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมเจ้าหนี้บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI โดยที่ประชุมเจ้าหนี้ได้มีมติพิเศษเห็นชอบตามที่ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น เสนอเปลี่ยนผู้ลงทุนรายใหม่ เป็นกลุ่มบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้ผู้ลงทุนรายใหม่ และปฏิบัติตามเงื่อนไขการฟื้นฟูกิจการเดิม คือจ่ายเงินชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ 1,700 ล้านบาท โดยการเพิ่มทุนจดทะเบียนและนำเงินที่ได้ทั้งหมดไปคืนหนี้ให้กับเจ้าหนี้ และเจ้าหนี้แปลงหนี้เป็นทุน 100 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหนี้รายใหญ่ของบริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น 2 ราย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทยและธนาคารยูโอบี มีหนี้รวมกัน 76% ของมูลหนี้ 7,000 ล้านบาท

สำหรับเงื่อนไขการลงทุนครั้งนี้ ทางกลุ่มบริษัทเวิลด์แก๊สเสนอวางหลักประกันการชำระหนี้ 50 ล้านบาท ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ศาลล้มละลายกลางเห็นชอบกับการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว ส่วนที่เหลือจะต้องชำระภายใน 120 วัน และขั้นตอนหลังจากนี้ คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการต้องส่งแผนที่ขอแก้ไขให้ศาลล้มละลายกลางพิจารณา ซึ่งศาลได้นัดพิจารณาในวันที่ 26 เม.ย.นี้

สำหรับสาเหตุที่ขอเปลี่ยนแปลงผู้ลงทุนรายใหม่ เนื่องจากแผนฟื้นฟูกิจการเดิมกำหนดให้กลุ่มนายพิมล ศรีวิกรณ์ เป็นผู้ได้สิทธิใส่เงินเพิ่มทุนให้บริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น แต่กลุ่มนายพิมลไม่ได้ใส่เงินเข้ามาภายในระยะเวลาที่กำหนด 120 วัน หลังศาลให้ความเห็นชอบและครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2554 เจ้าหนี้ได้ยึดเงินมัดจำกลุ่มนายพิมล 80 ล้านบาท ทำให้นายพิมลฟ้องเจ้าหนี้เพื่อขอเงินมัดจำคืน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขบวนการของศาล อย่างไร ก็ตาม หลังจากกลุ่มนายพิมลไม่ใส่เงินเพิ่มทุนปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการได้ ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการได้หากลุ่มผู้ร่วมทุนรายใหม่ โดยมีผู้สนใจ 2-3 ราย สุดท้ายผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการได้ตัดสินใจเลือกกลุ่มบริษัทเวิลด์แก๊สเข้ามาเป็นผู้ร่วมทุนรายใหม่ โดยเงื่อนไขการฟื้นฟูกิจการไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากแผนฟื้นฟูกิจการเดิม

โดยในแผนฟื้นฟูกิจการ เจ้าหนี้ยินยอมลดยอดหนี้จาก 7,000 ล้านบาท เหลือ 1,800 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้ลงทุนรายใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มทุนต้องใส่เงินเข้ามา 1,700 ล้านบาท ซึ่งจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปิคนิค 85% ของทุนจด ทะเบียน ส่วนหนี้ที่เหลืออีก 100 ล้านบาท เจ้าหนี้จะแปลงหนี้เป็นทุนจดทะเบียน และได้สัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 5% และอีก 10% เป็นของผู้ถือหุ้นรายเดิม

นอกจากเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการพิเศษคดีพิเศษ 4 ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้ง “คำสั่งไม่ฟ้อง” พล.ต.ท.
สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง (ยศขณะนั้น) ผู้ต้องหาที่ 1 นายธรรมนูญ ทองลือ ผู้ต้องหาที่ 2 นายทนงศักดิ์ ศรีทองคำ ผู้ต้องหาที่ 3 นายพิศาล พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ต้องหาที่ 4 นายยงยศ พึ่งธรรม ผู้ต้องหาที่ 5 นางสาววรรณา เด็ดดวง ผู้ต้องหาที่ 6 ฐานร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ตามที่นางวิมลรัตน์ กุลดิลก ภรรยา พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทยยื่นฟ้อง ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า พล.ต.ท.สมยศ ผู้ต้องหาที่ 1 ได้หุ้นของบริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด (เป็นผู้ถือใหญ่ 99.91% ในบริษัทเวิลด์แก๊ส) จำนวน 10,199,600 หุ้น รับโอนหุ้นบริษัทแอสเซ็ท มิลเลี่ยน จากนายธรรมนูญ ทองลือ โดยถูกต้อง ไม่ใช่เอกสารปลอม จึงฟังไม่ได้ว่า พล.ต.ท.สมยศและนายธรรมนูญร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น