วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ตลาดรถฝืดหนักสต๊อกบวมเป่ง มาสด้าพลิกเกมปรับกำลังผลิต-เตือน0 %ทำเสียตลาด

updated: 02 พ.. 2556 เวลา 09:00:07 น.
"มาสด้า" แก้เกมตลาดฝืด รถเต็มโชว์รูม สั่งโรงงานบาลานซ์ออร์เดอร์ตลาดในและต่างประเทศกระจายความเสี่ยง ห่วงตลาดรถแข่งเดือด จับตาแคมเปญดอกเบี้ย 0% ทำตลาดทรุด

นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้าเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงสถานการณ์ของตลาดรถยนต์ในขณะนี้ หลาย ๆ ค่ายประสบภาวะปัญหารถล้นสต๊อก อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายการส่งเสริมให้ประชาชนมีโอกาสได้เป็นเจ้าของรถยนต์คันแรกในปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนใหญ่ตัดสินใจเพิ่มกำลังผลิตจนเกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลาย

โดยเฉพาะค่ายรถยนต์ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนรุ่น รวมทั้งไมเนอร์เชนจ์รถน่าจะได้รับผลกระทบจากตรงนี้ค่อนข้างมาก ทำให้ได้เห็นภาพของการแข่งขันและการทำแคมเปญส่งเสริมการขายออกมาอย่างต่อเนื่องและค่อนข้างจะรุนแรงดังจะเห็นได้ว่ามีค่ายรถบางค่ายเมื่อออกรุ่นใหม่แล้วยังส่งโปรโมชั่นและแคมเปญส่งเสริมการขาย ทั้งส่วนลดและของแถมรวมมูลค่าเท่ากับหรือมากกว่าผู้ใช้สิทธิ์คืนภาษีรถคันแรก 100,000 บาทด้วยซ้ำประกอบกับพฤติกรรมของลูกค้าจะแตกต่างจากปีที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากลูกค้าจะไม่อยู่ในช่วงของอารมณ์ต้องการจะจับจ่าย

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าภาพรวมของตลาดรถยนต์ในขณะนี้ค่ายรถต่าง ๆ ต้องการส่งมอบรถให้กับลูกค้าของตัวเองโดยเร็วที่สุด ด้วยความพยายามเพิ่มกำลังการผลิตมาตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา รวมทั้งการเจรจากับบริษัทแม่เพื่อให้การสนับสนุนการเพิ่มกำลังการผลิต

แต่สำหรับมาสด้านั้น จะเห็นว่าบริษัทได้เลือกใช้วิธีการ "มิกซ์" สัดส่วนการผลิตระหว่างตลาดในประเทศและตลาดส่งออกมาตั้งแต่หลังช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ต่อเนื่องมาจนถึงรถคันแรกและปัจจุบันเพราะบริษัทเชื่อว่าวิธีการดังกล่าวจะเป็นการช่วยบริหารและกระจายความเสี่ยง บวกกับการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเพื่อรองรับตลาดในช่วงโครงการรถคันแรกนั้น บริษัทมองว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการไปแล้วกำลังการผลิตที่ถูกเพิ่มเข้ามานั้นจะนำไปที่ไหน

ดังนั้น บริษัทจึงเลือกใช้วิธีการบริการจัดการ หรือการมิกซ์สัดส่วนการผลิตระหว่างตลาดในประเทศและตลาดส่งออกโดยในช่วงที่ผ่านมา มาสด้าอาจจะให้ความสำคัญและให้สัดส่วนการผลิตกับตลาดภายในประเทศมากกว่าการผลิตเพื่อการส่งออก แต่ปัจจุบันบริษัทได้ปรับลดสัดส่วนเพื่อให้เป็นไปตามสถานการณ์ของตลาดมากที่สุด

จากก่อนหน้านี้สัดส่วนการผลิตสำหรับตลาดในประเทศจะอยู่ที่ 4,500 คันต่อเดือน แต่ปัจจุบันได้ถูกปรับสัดส่วนลงมาอยู่ที่ 3,000 คันต่อเดือน และส่วนที่เหลือจะนำไปบวกเพิ่มให้กับตลาดส่งออก

"เรามีการพูดคุยกับดีลเลอร์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดที่อาจจะไม่ดีเท่าปีที่ผ่านมา ซึ่งทุกคนเข้าใจว่าเราจะใช้นโยบายการบริหารจัดการสต๊อกเป็นหลัก ส่วนหนึ่งก็เพื่อที่จะไม่เป็นการผลักภาระรถให้ไปกองอยู่ที่ดีลเลอร์นั่นเอง"

นางสาวสุรีทิพย์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ได้เลือกวิธีการใช้อัตราดอกเบี้ยมาเป็นตัวขับเคลื่อน มีการลดแลกแจกแถม รวมทั้งจะเน้นน้ำหนักไปที่การโฆษณาประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น แต่สภาพการแข่งขันก็ยังไม่รุนเเรงเท่าปี 2008-2009 ที่ช่วงนั้นค่ายรถเลือกใช้วิธีการดาวน์ที่ 0%

ส่วนเป้าหมายการจำหน่ายในปีนี้ มาสด้าตั้งเป้าจะต้องมียอดขายอยู่ที่ 75,000-78,000 คันนั้น เชื่อว่าวันนี้เป้าหมายดังกล่าวยังมีความเป็นไปได้อย่างแน่นอนเห็นได้จากยอดการจำหน่ายรถยนต์ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา มียอดขายสะสมกว่า 400,000 คัน

ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่ค่อนข้างสูงกว่าปกติตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากตลาดรถยนต์โดยรวมเฉลี่ยจะเริ่มมีการเติบโตเมื่อเข้าสู่เดือนกรกฎาคมไปแล้ว แต่ปีนี้ถือว่าการเติบโตที่ผิดปกติและมีดีมานด์มาตั้งแต่ช่วงต้นปี ประกอบกับค่ายรถยนต์หลาย ๆ ค่ายมีแผนจะทยอยส่งรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมาสด้าด้วย

"ปีนี้ตลาดผิดปกติแต่ก็ถือว่ายังผิดปกติไม่เท่าปีที่แล้ว ค่ายรถยนต์ทุกค่ายมองว่าตัวเองจะเติบโตเหมือนกันหมด ทำให้ช่วงปีที่ผ่านมามีการประกาศขยายกำลังการผลิตกันค่อนข้างมาก ทำให้ปีนี้กำลังการผลิตที่ถูกเพิ่มมานั้น ทุกคนต้องพยายามกันตั้งแต่ต้นปี แต่ทุกคนลืมมองไปว่าก้อนเค้กที่เคยมีมันเล็กลง ดังนั้น ภาพที่เห็นคือค่ายรถต่างพยายามแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างดุเดือด"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น