วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ออมสินคุยยอดเงินฝากพุ่ง พร้อมอุ้ม‘ประชานิยม’/โครงการ2ล้านล.


วันจันทร์ ที่ 06 พฤษภาคม พ.ศ. 2556, 06.00 น.
ที่มา http://www.naewna.com/business/50815
แบงก์ออมสิน โชว์หน้าตัก โดยพบว่ามียอดเงินฝากรวมอยู่ที่ 1.8 ล้านล้านบาทมั่นใจปีนี้กำไร 2.1 หมื่นล้านบาท พร้อมสนองนโยบายรัฐ อุ้มทั้ง “ประชานิยม”/โครงการลงทุน 2 ล้านล้าน

นายธัชพล กาญจนกูล รอง ผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโสเปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาสแรกปี 2556 (มกราคม-มีนาคม 2556) พบว่าผลดำเนินงานของออมสินอยู่ในระดับที่ดีมากโดยมีกำไร 5,000 ล้านบาท หากรวมผลประกอบด้วยในเดือนเมษายน 2556 ด้วยแล้วกำไรอยู่ที่ประมาณ 5,800 ล้านบาทถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าตลอดทั้งปีจะมีกำไร 2.1 หมื่นล้านบาท หรือไม่ต่ำกว่าไตรมาสละ 5,000 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์ของธนาคารล่าสุดอยู่ที่ 2.1ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5 แสนล้านบาทโดยสินทรัพย์ของธนาคารเกินกว่า 2ล้านล้านบาท มาตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2556 ที่ผ่านมา

ด้านเงินฝากนั้นล่าสุดเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมายทั้งปีแล้ว โดยเงินฝากเพิ่มขึ้น 1.4 แสนล้านบาท ส่งผลให้เงินฝากในภาพรวมอยู่ที่ 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปี 2555 ที่อยู่ระดับ 1.67 ล้านล้านบาท เงินฝากที่เพิ่มขึ้นมาจากผลิตภัณฑ์หลัก 3 ตัว คือ ผลิตภัณฑ์เงินฝาก 101 วัน ดอกเบี้ย 3% ฉลองครบรอบ 100 ปี หมดเขตรับฝากเงินไปเมื่อ 30 เมษายน ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมากมีเงินไหลเข้ามาฝากในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถึง 7 หมื่นล้านบาท ฝากเผื่อพิเศษมีเงินไหลเข้ามา 1.8 หมื่นล้านบาท และสลากออมสิน 100 ปี อีก 1.8 หมื่นล้านบาท

นายธัชพลกล่าวว่า ในปี 2555 ออมสินปล่อยกู้ภาครัฐอยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาท ส่วนปี 2556 จะปล่อยกู้เพิ่มอีก 7 หมื่นล้านบาทรวมเป็นยอดปล่อยกู้ 3.5 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ได้เตรียมระดมเงินฝากเพื่อปล่อยกู้ให้กับภาครัฐทั้งปล่อยกู้ในพ.ร.ก.กู้เงินบริหารจัดการน้ำด้วย ซึ่งล่าสุดออมสินปล่อยกู้ตามพ.ร.ก.ดังกล่าวไปแล้วกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท ส่วนการปล่อยกู้ในโครงการรับจำนำข้าวได้ปล่อยกู้ไปแล้ว 1 แสนล้านบาท ส่วนแผนปล่อยกู้ตามพ.ร.บ.กู้เงินเพื่อโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท คาดว่าน่าจะไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านบาท

ส่วนในด้านสินเชื่อล่าสุดอยู่ที่ 1.62 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่ผ่านมา 4 หมื่นล้านบาท สินเชื่อเพิ่มขึ้นไม่มากเพราะในปีนี้ออมสินเปลี่ยนนโยบายการปล่อยกู้ใหม่ เน้นปล่อยกู้ภาครัฐ และรายย่อยให้มากขึ้น โดยจะชะลอการปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจรายใหญ่เนื่องจากมองว่าการปล่อยสินเชื่อภาคธุรกิจรายใหญ่นั้นมีธนาคารพาณิชย์ให้บริการตรงนี้อยู่แล้วโดยเงินกู้ภาครัฐนั้นแม้ออมสินประมูลเงินกู้ได้แล้ว แต่บางส่วนยังไม่ได้เบิกจ่ายไปใช้

อย่างไรก็ตาม ในการปล่อยกู้ภาครัฐนั้นมีผลกระทบต่อผลประกอบการของออมสิน เนื่องจากดอกเบี้ยที่ได้รับจะน้อยกว่าการปล่อยกู้ภาคธุรกิจ ออมสินพยายามลดต้นทุนของเงินฝาก ล่าสุดปรับลดลงเหลือ 2.6% จากปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 2.8% ซึ่งวิธีการลดต้นทุนเงินฝาก อาทิ ลดเงินฝากรายใหญ่ที่มีดอกเบี้ยสูงๆ ลง และหันมารับฝากเงินจากรายย่อยแทนที่ดอกเบี้ยถูกกว่าแทน ทำให้ขณะนี้สัดส่วนเงินฝากรายใหญ่ลดลงเหลือเพียง 12% จากปลายปี 2555 อยู่ที่ 15% ส่วนเงินฝากรายย่อยปรับเพิ่มเป็น 40% จากเดิมอยู่ที่ 30% พร้อมทั้งปรับแผนการลงทุนตลาดตราสารหนี้ และตลาดหุ้นให้เพิ่มขึ้น เพราะช่วงนี้ตลาดดังกล่าวสร้างผลตอบแทนให้ออมสินถึง 35%

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า มีความพยายามจากฝ่ายการเมืองได้สั่งการให้แบงก์ออมสินระดมเงินฝาก เพื่อนำมาปล่อยกู้ให้กับรัฐบาลในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพราะรัฐบาลมีแผนต้องกู้เงินจำนวนมาก หลังจากรัฐบาลออกร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและยังต้องกู้จากพ.ร.ก. กู้เงินอีก 3.5 แสนล้านบาท เพื่อบริหารจัดการน้ำ ทำให้ธนาคารออมสิน ได้พยายามออกผลิตภัณฑ์ระดมเงินฝากมากขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น