updated: 06 พ.ค. 2556 เวลา 23:20:57 น.
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
"เบนซ์" โหมสร้างแบรนด์เจาะตลาดวัยรุ่นรับเดินถูกทาง "เอ-คลาส" กระแสเปรี้ยงลูกค้าแห่จอง 800 คันยอดล้นถึงสิ้นปี ส่ง "ซีแอลเอ" เคาะราคา 2.64 ล้าน ช่วยโกยยอดต่อ ปลื้มไตรมาสแรกยอดขายโต 50% เผยลูกค้าหวั่นซื้อเกรย์แห่ซื้อรถนำเข้าจากดีลเลอร์
นายมาร์ติน ชูลซ์ รองประธานบริหารฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงแผนรุกตลาดกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 20-40 ปีที่มีกำลังซื้อสูงว่า ในตลาดยังไม่มีสินค้าที่ตอบโจทย์กับความต้องการมากนัก บริษัทจึงเตรียมเพิ่มสินค้าเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ให้มีความหลากหลาย
สำหรับในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ที่ก่อนหน้านี้ได้แนะนำรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น เอ-คลาส ออกสู่ตลาดด้วยราคาที่ดึงดูดเพียง 1.89 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก ปัจจุบันมียอดจองแล้วราว 700-800 คัน คาดว่าจะใช้เวลาตลอดทั้งปีในการทยอยส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าได้ทั้งหมด
และ เพื่อเป็นการต่อยอดการขยายกลุ่มลูกค้า บริษัทได้แนะนำรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เดอะ นิว ซีแอลเอ-คลาส ด้วยราคา 2.64 ล้านบาท โดยจะเริ่มส่งมอบภายใน 3 เดือนนับจากนี้ ซึ่งลูกค้าในกลุ่มนี้จะไม่ไปดึงลูกค้าในกลุ่มเอ-คลาส เนื่องจากซีแอลเอนั้นเป็นรถสไตล์สปอร์ตคูเป้สี่ประตูที่ผู้ใช้งานสามารถใช้ ในครอบครัวได้ด้วย ขณะที่เอ-คลาสจะมีความสปอร์ตและมีสีสันมากกว่า
และ ภายในปีนี้บริษัทยังเตรียมจะทยอยแนะนำรถใหม่ถึง 4 รุ่น ซึ่งแนวทางการออกแบบและภาพลักษณ์ก็จะคงคอนเซ็ปต์นี้ให้รถมีความทันสมัย และดูปราดเปรียวยิ่งขึ้นเพื่อขยายตลาดสู่ฐานลูกค้าใหม่ ๆ ทำให้บริษัทมีโปรดักต์ไลน์ที่หลากหลาย จนถึงปัจจุบันนั้นมีรถยนต์จำหน่ายแล้วกว่า 15 รุ่น และยิ่งเมื่อรวมกับรุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัว ก็เชื่อว่าจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าพร้อมทั้งลบภาพลักษณ์เดิม ๆ ของสินค้าได้ด้วย คาดว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถเพิ่มสัดส่วนลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ถึง 15% จากเดิมที่มีสัดส่วนไม่ถึง 10%
"เรามีบันไดของราคาสินค้าชัดเจน รวมถึงสินค้าก็มีความเฉพาะเจาะจงที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ชัดเจน แต่หลากหลายมากขึ้น ด้วยจำนวนโมเดลที่จำหน่ายในปัจจุบันถึง 15 รุ่น และรุ่นใหม่ ๆ ที่จะแนะนำสู่ตลาดต่อจากนี้ก็จะมีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น" นายมาร์ติน ชูลซ์ กล่าว
สำหรับภาพรวมของตลาดรถยนต์หรูนั้น จะเห็นได้ว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างจากตลาดรถยนต์ทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรกเห็นได้จาก ยอดขายไตรมาสแรกของปีเติบโตถึง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมียอดขายรวม 1,770 คัน ประกอบกับสถานการณ์ของผู้นำเข้าอิสระที่ยังไม่มีความแน่นอนหลังจากภาครัฐ กำหนดเรื่องมาตรฐานอุตสาหกรรม รวมทั้งบริการหลังการขาย ทำให้ราคาไม่นิ่ง จึงหันมาซื้อกับดีลเลอร์ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากเมอร์เซเด ส-เบนซ์ ประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น