21 มีนาคม 2556 เวลา 11:10 น
ที่มาhttp://www.posttoday.com/
นายโอซามุ มาสุโกะ ประธานบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมย้ายฐานการวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) บางส่วนจากประเทศญี่ปุนมายังประเทศไทย เพื่อการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพการวิจัยและพัฒนาคุณภาพของรถยนต์ที่ผลิตในไทย รวมถึงการเพิ่มบทบาทในการพัฒนารุ่นไมเนอร์เชนจ์ สำหรับตลาดในประเทศไทย พร้อมทั้งเพื่อค้นคว้าข้อมูลแนวโน้มการตลาดและเทคโนโลยีตลาดอาเซียน
ทั้งนี้ แผนดังกล่าวจะมีการเพิ่มจำนวนวิศวกรชาวไทยและญี่ปุ่นในหน่วยงานอาร์แอนด์ดี เป็น 120 คน จากที่มีอยู่ 40 คน รวมถึงการเพิ่มอุปกรณ์เครื่องมือและสนามทดสอบรถยนต์มาตรฐาน เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นฐานการวิจัยและพัฒนา และฐานผลิตที่สำคัญที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ระดับโลก
“การย้ายฐานวิจัยดังกล่าวมายังประเทศไทยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาภายใน 2 ปีต่อจากนี้ ในการพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว” นายมาสุโกะ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทที่ผ่านมาได้รับผลกระทบต่อบริษัทบางส่วน ซึ่งความกังวลในแรงงานภาคอุตสาหกรรมหลังจากนี้มองว่า แนวโน้มแรงงานจะไม่เพิ่มปริมาณมากนักซึ่งอยู่ในระดับ 40 ล้านคน ซึ่งบริษัทวางแผนการแก้ไขปัญหาโดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กเพื่อส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก จากเดิมที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะสำคัญของบริษัทเพื่อการส่งออกไปยัง 140 ประเทศทั่วโลก
บริษัทมีเป้าหมายในการส่งออกรถยนต์จากประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 3 ล้านคันภายใน 34 ปีจากนี้ หลังจากบริษัทได้มีการส่งออกครบจำนวน 2 ล้านคันไปเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายมาสุโกะ กล่าวถึงการเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า มีการพูดคุยให้บริษัทผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมิตซูบิชิพร้อมสนับสนุน แต่ต้องมีตนได้กล่าวว่า บริษัทคำนึงถึงสภาะแวดล้อมการผลิตประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งหากมีผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฮบริด และรถไฟฟ้าในประเทศไทยก่อน ถึงจะพิจารณาการลงทุนผลิตรถประเภทดังกล่าวในไทย
นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า แผนลงทุนในปี 2556 นี้จะใช้เงินลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 5 หมื่นคัน ในโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่ 3 ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ที่ผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 5.1 แสนคัน จากเดิมมีกำลังการผลิตรวมจำนวน 4.6 แสนคัน ภายในปี 2556
ทั้งนี้ ในปี 2556 ตั้งเป้าส่งออกเพิ่มเป็น 3.4 แสนคัน จากปีก่อนส่งออก 2.8 แสนคัน จากปัจจัยความต้องการในตลาดรถยนต์ทั่วโลกเริ่มมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับในไทย เบื้องต้นบริษัทได้คงเป้าหมายการจำหน่ายไว้ที่ 1.3 แสนคัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น