วันที่ 27 มีนาคม 2556 13:20
ที่มาhttp://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance
นายพจน์ หะริณสุต รองกรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจลูกค้าบุคคลและสถาบัน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนส่วนบุคคลภายใต้การบริหารของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ได้เติบโตแบบก้าวกระโดดมาอย่างต่อเนื่อง จากอันดับ 9 ในอุตสาหกรรม เมื่อปี 2552 มาเป็นอันดับ 2 ในปี 2555 โดยมีเม็ดเงินที่ได้รับความไว้วางให้บริหารเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในอุตสาหกรรมในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจว่าภายใต้การเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้จะส่งผลให้มีส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคลในระยะเวลาอันใกล้
ทั้งนี้ ในปี 2555 บลจ.ไทยพาณิชย์ เติบโตขึ้น 12.9% ขณะที่ทั้งอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคล เติบโตเพียง 1.8% โดยปัจจุบัน กองทุนส่วนบุคคลภายใต้การบริหารโดย บลจ.ไทยพาณิชย์ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 38,637.76 ล้านบาทโดยมีส่วนแบ่งการตลาด 12% ซึ่งเป็นการเติบโตสวนทางกับอุตสาหกรรม เทียบกับเมื่อปี 2552 ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพียง 3,000 ล้านบาท
นายพจน์กล่าวว่า สาเหตุที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด สู่การเป็นอันดับที่ 2 ได้ในช่วงระยะเวลาเพียง 3 ปีนั้น เนื่องมาจาก ได้รับความไว้วางใจจากสถาบันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา กลุ่มธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต และองค์กรต่างๆ รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ และหน่วยงานของรัฐ นอกจากนี้ยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จัดการกองทุนให้กับสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทยหลายแห่งทั่วประเทศอาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นต้น
จุดเด่นของบลจ.ไทยพาณิชย์ คือ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งในด้านการจัดสรรสินทรัพย์และวางกลยุทธ์การลงทุน (Asset Allocation & Investment Strategy) ด้านการลงทุนต่างประเทศ โดยมี International investment advisor ชั้นนำของโลกเป็นที่ปรึกษา นอกจากนี้การเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการใกล้เคียง 700,000 ล้านบาท ทำให้มี economy of scale ในการลงทุนและมีอำนาจต่อรองสูง และอีกปัจจัยที่ขาดไม่ได้คือการเป็นบริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ นอกจากนี้ยังมี know-how ระบบการปฏิบัติงาน การบริหารความเสี่ยงที่เป็น world-class จากธนาคารที่มีความแข็งแกร่งมามากกว่า100 ปี
นายพจน์ กล่าวว่าธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลจะมีการเจริญเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปัจจุบันผู้มีอำนาจหรือคณะกรรมการการลงทุนในสถาบันต่างๆ มีแนวโน้มที่จะว่าจ้างมืออาชีพบริหารงานมากขึ้น ในขณะที่บริษัทฯเองก็มีนโยบายในการให้ความรู้และอบรมแก่ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยให้มีอัตราการขยายตัวของการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทวางเป้าหมายในการขยายตลาดกองทุนส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจะก้าวเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลภายในปี 2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น