วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

'ฮิลตัน'เปิด 2 โรงแรมหรูยึดหัวหาด'สุขุมวิท'

ธุรกิจ : Marketing
วันที่ 1 พฤษภาคม 2556 12:22
โดย : นฤมล เกษมสุข


ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business
ความเคลื่อนไหวของเชนโรงแรมระดับโลกในไทยยังคงคึกคักต่อเนื่อง แม้จะเข้าสู่ไตรมาสสอง ซึ่งถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่น
ทว่าเครือโรงแรมระดับโลกอย่าง “ฮิลตัน” ก็ยังคงอาศัยจังหวะนี้ ประกาศชักธงรบโรงแรมย่านสุขุมวิท ผนึกทุนใหญ่ “ทีซีซี แลนด์” ที่เคยจรดปากกาเซ็นสัญญากันไปเมื่อราว 2 ปีก่อน ประกาศเปิดตัว 2 โรงแรมรวดในปีนี้ ประเดิมจับแบรนด์ “ดับเบิลทรี ฮิลตัน” ลุยตลาดรอง ก่อนจะบุกกินรวบตลาดบน ส่งเรือธงอย่าง “ฮิลตัน สุขุมวิท” เปิดให้บริการ ก.ค.นี้ โดยให้ความเชื่อมั่นว่า แนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวที่ดาหน้าเข้าไทย จะตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างลงตัว

มาร์ติน ริงค์ ประธานฮิลตัน เวิลด์ไวด์ เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในไทยว่า ได้เปิดให้บริการโรงแรมในเครือฮิลตันลำดับที่ 8 ในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “ดับเบิลทรี ฮิลตัน” ขนาด 23 ชั้น จำนวน 177 ห้อง ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่นำแบรนด์นี้มาเปิดตัวในกรุงเทพฯ และนับเป็นโรงแรมในเครือฮิลตันลำดับที่ 100 ในเอเชียแปซิฟิก ก่อนที่ในราวเดือน ก.ค.นี้ จะเปิดตัว “ฮิลตัน สุขุมวิท” ขนาด 280 ห้อง ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 บนที่ดินหันหลังชนกันกับโรงแรมดับเบิลทรี ฮิลตัน ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยจะเป็นสองโรงแรมที่เปิดตัวในปีนี้

ทั้งนี้ ดับเบิลทรี ฮิลตัน และ ฮิลตัน สุขุมวิท อยู่ภายใต้การลงทุนของ "กลุ่มทีซีซีแลนด์" ซึ่งเป็นธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ภายใต้อาณาจักรของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมในไทยและต่างแดนรวมกันใน 11 ประเทศกว่า 50 แห่ง โดยโครงการใหญ่ที่วางแผนเปิดตัวในปีนี้ นอกจาก 2 โรงแรมในเครือฮิลตันแล้ว ทีซีซีแลนด์ ยังมีโรงแรมวานาแบล เกาะสมุย ซึ่งอยู่ในกลุ่มลักชัวรี คอลเลคชั่น ภายใต้เชนสตาร์วู้ด นอกจากนี้เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ยังเซ็นสัญญากับกลุ่มโรงแรม แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อให้มาบริหารโรงแรม 7 แห่งในเครือ ซึ่งรวมถึง อิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค และอิมพีเรียล อาดามาส รวมถึงโปรเจคใหม่ในพัทยาและหัวหิน

ริงค์ กล่าวต่อว่า นอกจาก 2 โรงแรมใหม่ดังกล่าว ในช่วงต้นปี 2557 จะนำแบรนด์หรูที่สุดในเครือคือ วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท มาเปิดตัวแห่งแรกในย่านราชดำริ โดยยืนยันว่า ไทย ยังเป็นจุดหมายที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจโรงแรม เนื่องจากมีการเติบโตของนักท่องเที่ยวถึง 13.8% ในปีที่ผ่านมา สูงกว่าการเติบโตในภาพรวมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งอยู่ที่ 8.7% และเอเชียแปซิฟิกที่เติบโตอยู่ราว 6.8%

นอกจากนี้ ยังเตรียมบุกตลาดเอเชียแปซิฟิกเพื่อรองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้อย่างเต็มตัว หลังจากปีที่แล้วได้เซ็นสัญญารับบริหารโรงแรมเพิ่มอีกถึง 55 แห่ง รวมกว่า 14,600 ห้อง โดยมีแบรนด์ดับเบิลทรี ฮิลตัน ซึ่งเติบโตสูงสุด และครองสัดส่วนถึง 22 โรงแรมจากการเซ็นสัญญาใหม่ดังกล่าว ขณะที่จำนวนโรงแรมซึ่งเปิดแล้วทั่วโลกมีกว่า 330 แห่ง พร้อมกันนี้ยังเตรียมตลาดอาเซียนครั้งใหญ่ หลังจากเซ็นสัญญาก่อสร้างโรงแรมฮิลตัน ย่างกุ้ง แห่งแรก จำนวน 300 ห้อง กำหนดเปิดให้บริการในปี 2557 รวมถึงเตรียมเปิด คอนราด มะนิลา ในฟิลิปปินส์ จำนวน 350 ห้อง กำหนดเปิดในปี 2558 และฮิลตัน การ์เด้น อินน์ ฮานอย แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเปิดให้บริการราวเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับเป้าหมายในในอีก 5 ปี ฮิลตัน เวิลด์ไวด์ คาดว่าจะมีโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกกว่า 170 แห่ง รวมกว่า 50,000 ห้อง จากปัจจุบันมีอยู่ราว 104 แห่ง โดยหลังจากเปิดตัวแห่งที่ 100 กับดับเบิลทรี ฮิลตัน สุขุมวิทแล้ว ในวันนี้ (1 พ.ค.) จะเปิดตัวที่ออสเตรเลียอีก 4 แห่งรวด แบ่งเป็นแบรนด์ดับเบิลทรี 3 แห่ง และแบรนด์ฮิลตัน 1 แห่ง

ด้าน วิลเลียมส์ คอสต์ลีย์ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮิลตัน เวิลด์ไวด์ เปิดเผยว่า การขยายโรงแรมเครือฮิลตันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ในอัตราเพิ่ม 2 เท่าตัวในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าในอีก 3 ปีจำนวนรวมจะเพิ่มเป็น 30 โรงแรม (จากปัจจุบันมีอยู่ 12 แห่ง) อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้มีแผนจะขยายต่อเนื่องทั้งในไทย และอีก 3 แห่งใน มาเลเซีย อีก 3 แห่งในอินโดนีเซีย เป็นต้น

โดยย้ำว่าไม่กังวลกับปัญหาอุปทานห้องพักโรงแรมล้นตลาด เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวยังคงเพิ่มขึ้น กลายเป็นปัจจัยส่งเสริมอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ดีมาก สังเกตจากตัวเลขของโรงแรมเครือฮิลตันในไทยในช่วงไตรมาสแรก ถือเป็นไตรมาสที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 ปี โดยเฉพาะในภูเก็ต ซึ่งได้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเป็นจำนวนมาก ขณะที่แบรนด์ฮิลตันก็ได้รับการยอมรับจากลูกค้าจีนสูง เพราะเป็นเชนโรงแรมใหญ่แห่งแรกที่เข้าไปบุกเบิกตลาดนี้และยังครบรอบ 25 ปีพอดี

คอสต์ลีย์ ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันฮิลตันมีทั้งหมด 10 แบรนด์ แต่ยังมีในไทยเพียง 3 แบรนด์ ดังนั้น อนาคตจะเตรียมเปิดกว้างเจรจากับนักลงทุนที่สนใจในการขยายแบรนด์อื่นๆ โดยวิเคราะห์ว่า แบรนด์ที่มีศักยภาพในการนำมาขยายคือ “การ์เด้น อินน์” ที่ให้บริการแบบจำกัด เน้นไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย และจับตลาดรองลงมาจากคอนราด ฮิลตัน และดับเบิลทรี ที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น