วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กำเนิดมีดโกน ยิลเลตต์

กำเนิดมีดโกน ยิลเลตต์
        สมัยเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 นั้น การโกนหนวดแต่ละครั้งยังเต็มไปด้วยความยากลำบาก ทั้งไม่สะดวกและต้องเสี่ยงต่อการได้รับบาดแผลจากการใช้ใบมีดโกนแบบธรรมดา จนกระทั่ง ปี ค.ศ. 1903 ใบมีดโกนแบบโกนได้อย่างปลอดภัยก็ออกวางขาย โดยผู้ประดิษฐ์ใบมีดโกนแบบนี้ก็ คือ คิงส์ ซี. ยิลเล็ตต์            

คิงส์ ซี. ยิลเล็ตต์ เกิดที่มลรัฐวิสคอนซิน เมื่อปี ค.ศ.1855 เมื่ออายุ 21 ปี คิงส์ ซี. ยิลเล็ตต์ ก็ยึดอาชีพเซลส์แมนตระเวนขายสินค้าไปในที่ต่างๆ เขาเป็นคนชอบซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ โลหะที่เขาขาย และในที่สุดก็ประดิษฐ์ขึ้นมาขายเอง แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเนื่องจากไม่ มีเวลาโปรโมต

จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ คิงส์ ซี. ยิลเล็ตต์ กำลังโกนหนวดด้วยใบมีดทื่อๆ อยู่ นั้นเอง เขาก็เกิดความคิดขึ้นมาว่าทำไมถึงไม่มีมีดโกนแบบคมๆ ราคาถูก เมื่อใช้จนทื่อก็ทิ้งได้ เลย โดยไม่ต้องส่งไปลับให้คมเพื่อเอามาใช้ใหม่เหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนั้น แต่ก็ใช่ว่าเขา จะประดิษฐ์ใบมีดในฝันได้สำเร็จภายในปีนั้นเลย

คิงส์ ซี. ยิลเล็ตต์ ต้องใช้เวลาถึงแปดปีกว่าจะ พัฒนาให้ใบมีดโกนหนวดแบบปลอดภัยออกวางจำหน่ายได้ นที่สุดจิลเลตต์ก็ร่วมกับวิศวกรชื่อวิลเลียมผลิตใบมีดโกนสองคมแบบปลอดอันตรายสำเร็จ โดยออกแบบให้ใช้สวมเข้าในเดือยสำหรับเกาะใบมีด  มีด้ามถือและมีหัวปรับได้  ใบมีดโกนเหล็กกล้าผสมคาร์บอนนี้รับประกันความคมว่าใช้งานได้ถึง 20 ครั้ง  และขายเป็นห่อ  ห่อละ 12 ใบ   

จิลเลตต์ก่อตั้งบริเษัทเชฟีเรเซอร์ขึ้นและจดทะเบียนลิขสิทธิ์มีดโกนของเขาใน ค.. 1901  มีดโกนชุดแรกวางขายในสหรัฐ เมื่อปี ค.. 1904  ตัวมีดโกนและใบมีดขายบรรจุกล่องเป็นชุด ๆ ตามร้านเครื่องประดับ  ร้านขายยา  ร้านเครื่องเหล็กและห้างสรรพสินค้าซึ่งเพิ่งมีในยุคนั้น  มีดโกนชุดแรก ๆ มีทั้งแบบด้ามชุบเงินและทอง ออกวางจำหน่ายนั้น เขาขายตัวมีดโกนหนวดได้ แค่ 51 อัน และขายใบมีดได้แค่ 168 ใบเท่านั้น บริษัทจึงโหมโฆษณาในหนังสือพิมพ์และนิตยสารผู้ชายทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปเพื่อแนะนำให้คนรู้จัก  ผลคือทำยอดขายตัวมีดโกนจิลเลตต์ได้ถึง 90,000 ด้าม และใบมีดอีก 10 ล้านในปี ค.. 1905  จากนั้นยอดขายก็พุ่งพรวดเพิ่มขึ้นปีละ หลายเท่าตัว นับเป็นความสำเร็จที่เขาปฏิวัติการโกนหนวดได้ หลังจากที่ชาวโลกต้องโกนหนวด อย่างลำบากมาเนิ่นนาน            

หลังจากที่มีดโกนยิลเล็ตต์ขยายการจำหน่ายออกไปเรื่อยๆ คิงส์ ซี. ยิลเล็ตต์ ก็ได้คิด หาโลโก้เพื่อเป็นสัญลักษณ์และเป็นเครื่องหมายของสินค้า และเนื่องจากที่ คิงส์ ซี. ยิลเล็ตต์ เป็นคนที่หน้าตาดี มีหนวดและผมหยักศกดกดำ นั่นจึงทำให้รูปของเขาได้กลายมาเป็นโลโก้ของ ใบมีดโกนยิลเล็ตต์เสียเอง ซึ่งทำให้ผู้คนทั่วโลกคุ้นกับภาพของเขาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันมีดโกนมีมูลค่าการตลาดทั่วโลกสูงถึง 11,000 ล้านเหรียญ ร้อยละ 70 เป็นของยิลเลตต์


ก่อนยิลเลตต์จะถือกำเนิดขึ้น ผู้ชายในโลกนี้โกนหนวดกันอย่างไร

เกร็ดประวัติศาสตร์การโกนหนวดบันทึกไว้ว่า เมื่อ 30,000 ปีก่อนคริสตกาล ผู้ชายโบราณใช้ขวานหินและเปลือกหอยที่ลับจนคมมาถากหนวดและขนตามตัว 

ต่อมาปี 2305 ฌอง-ฌาคส์ แปเรต์ ช่างตัดผมชาวฝรั่งเศส จดสิทธิบัตรมีดโกนหนวดรุ่นแรกที่มีส่วนป้องกันคมมีด

ปี 2438 คิง แคมป์ ยิลเลตต์ ออกแบบมีดโกนหนวดพร้อมใบมีดใช้แล้วทิ้ง และนำไปจดสิทธิบัตรรุ่นเซฟตีเมื่อปี 2447 และเริ่มพัฒนารุ่นต่างๆ เรื่อยมา

ที่น่าสนใจคือในปี 2514 ที่ยิลเลตต์วางตลาดมีดโกนหนวดจีทู ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าขายดีติดอันดับทั่วโลก

แม้จะเป็นผู้มาก่อน แต่ช่วงหนึ่งระหว่างปี 2518-2530 ยิลเลตต์ก็เคยเพลี่ยงพล้ำให้กับคู่แข่ง ถูกบริษัทมีดโกนใช้แล้วทิ้งแย่งชิงความเป็นเจ้าตลาด ครองส่วนแบ่งไว้ถึงร้อยละ 45

ปี 2533 ยิลเลตต์ฟื้นตัวขึ้นมาได้เมื่อออกเซ็นเซอร์มีดโกนใบมีดแฝดระบบสปริงรุ่นแรก สร้างมาตรฐานใหม่แก่การโกนหนวดของผู้ชายในโลก

นักวิเคราะห์รายหนึ่งบอกว่า มีดโกนยิลเลตต์รุ่นเซ็นเซอร์ เป็นการตลาดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก


ที่มา http://www.fwdder.com/
http://www.rmutphysics.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น