วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โอโนริ เฉือนแชมป์ เถ้าแก่น้อยเขย่าถุงสาหร่าย 2 พันล้าน

 โอโนริ เฉือนแชมป์ เถ้าแก่น้อยเขย่าถุงสาหร่าย 2 พันล้าน

 สยามธุรกิจ บับที่ 1360 ประจำวันที่ 12-12-2012  ถึง 14-12-2012 ]
ที่มา http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413370784
หลังจากยักษ์ใหญ่อย่าง ‘โออิชิ’ ได้ปล่อย ‘โอโนริ’ สาหร่ายทอดกรอบลงสู่ตลาดเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เป็นผลทำให้อุณหภูมิของตลาดสาหร่ายปรุงรสร้อนฉ่าขึ้นทันใด และการฟาดฟันดูจะทวีความเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะเจ้าของบัลลังก์อย่าง “เถ้าแก่น้อย” เพราะดูเหมือนว่า ณ ตอนนี้ส่วนแบ่งของเถ้าแก่น้อยจะลดลงเหลือเพียง 50% เท่านั้น จากเมื่อกลางปียังมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 75% ขณะที่ปีที่แล้วมีส่วนแบ่ง 80% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมี “โอโนริ” เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งตลาด แต่ทั้งนี้การเข้ามาของโอโนริก็ไม่ได้ทำให้บัลลังก์ของเถ้าแก่น้อยสั่นคลอน เพียงอย่างเดียว หากทำให้ตลาดเติบโตมากขึ้นด้วย เพราะโดยปกติตลาดสาหร่ายจะเติบโตเพียง 15% เท่านั้น แต่ปีนี้กลับเติบ โตสูงถึง 40%

หลังจากเมื่อช่วงเปิดตัวได้สร้างปรากฏการณ์ ด้วยการสร้างรูปแบบการแข่งขัน “โอโนริ ตู้คีบยักษ์จับเงินแสน ชิงรางวัลเงินสด 1 แสนบาท” ที่ลาน พาร์ค พารากอนไปแล้ว เพราะมีผู้คนให้ความสนใจเข้าร่วมท้าชิงถึง 1,600 ชีวิตเลยทีเดียว และเมื่อถึงคราวเปิดตัว 2 รสชาติใหม่ ได้แก่ นาเบะต้มยำ และซุปเปอร์พิซซ่า เพิ่มเติมจากเดิมที่มีรสต้นตำรับญี่ปุ่น และพริกญี่ปุ่น ย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ด้วยเป้าหมายของ “โอโนริ” คือ การเป็นผู้นำตลาดสาหร่ายปรุงรสภายใน 5 ปี ด้วยส่วนแบ่ง 50% และเพียงเข้าตลาดได้ไม่ถึงปี ก็สามารถสอยแชร์ได้ถึง 6% จากตลาดสาหร่ายปรุงรส ที่มีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคให้การตอบรับโอโนริเป็นอย่างดี

นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ส่วนหนึ่งที่ตลาด สาหร่ายโตเป็นเพราะเราเข้ามาด้วย เลยเป็นการกระตุ้นให้ทุกคนทำโปรโมชั่น แต่ทั้งนี้เชื่อว่าปีหน้าตลาดจะแข่งกันดุเดือดกว่าปีนี้ เพราะเจ้าตลาดเองก็คงไม่อยู่นิ่ง และมาชิตะเองก็คงจะทำตลาดมากขึ้น แต่สำหรับรายใหม่ๆ จะเข้ามายากขึ้น เพราะเจ้าตลาดป้องกันเต็มที่ โดยเฉพาะรายเล็กจะเข้ามายาก หากเข้ามาจริงๆ จะเป็นแบรนด์เล็กและเข้าโชวห่วยเท่านั้น

“อย่างโอโนริเองก็เข้าตลาดมาได้เพียงไม่กี่เดือน จึงต้องทำกิจกรรมการตลาดมากหน่อย เพื่อสร้างการ รับรู้ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคได้เกิดการทดลองสินค้า อย่างไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ก็ใช้งบการตลาด 50 ล้านบาท ด้วยมีการออกรสชาติใหม่ 2 รสชาติ เพื่อเป็นการเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค ที่สำคัญยังได้มีการแจกแซมปิ้งให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมกว่า 1 ล้านซอง ไปยังแหล่งชุมชนต่างๆ ทั้งอาคารสำนักงาน และสถานศึกษา”

นอกจากนี้ ในปีหน้าได้เตรียมงบการตลาด 50 ล้านบาท จากที่ปีนี้ใช้งบไป 100 ล้านบาท โดยจะมีการเปิดตัวรสชาติใหม่อีก 1 รสชาติประมาณไตรมาส 1 หรือ 2 ของปี 2556 และมีแผนจะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังร้านค้าทั่วไป หรือเทรด ดิชันนัลเทรดให้มากขึ้น เนื่องจากสาหร่ายทอดกรอบโอโนริขนาดราคา 5 บาทขายดีในช่องทางร้านค้าทั่วไป โดยให้บีเจซีเป็นผู้จัดจำหน่ายให้ จากปัจจุบันช่องทางจำหน่ายหลักจะมาจากโมเดิร์นเทรด และคอนวีเนี่ยนสโตร์

“ถ้าเป็นช่องทางคอนวีเนี่ยนสโตร์ โอโนริจะมีส่วนแบ่งราว 8% เป็นเบอร์ 2 หรือ 3 สลับกับมาชิตะ ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในแต่ละช่วง ซึ่งกลยุทธ์หลักของโอโนริในการสู้ศึกตลาดสาหร่าย จะมี 3 กลยุทธ์ด้วยกัน คือ 1.สินค้า ด้วยการออกรสชาติใหม่ๆ และขนาดของสินค้าที่เหมาะกับแต่ละช่องทาง 2.ช่องทางจัดจำหน่าย 3.โปรโมชั่น ที่จะเป็นกลยุทธ์ที่จะทำให้เราได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”

ที่ปีหน้าใช้งบเพียง 50 ล้านบาทสำหรับทำตลาดโอโนริ เป็นเพราะปีนี้ใช้งบไปแล้ว 100 ล้านบาท เนื่องจากต้องการเสริมเท่านั้น โดยจะเน้นการทำบีโลว์ เดอะ ไลน์เป็นหลัก แต่งบดังกล่าวยังไม่รวมงบโปรโมชั่น 60 ล้านบาท

“มองว่าโอโนริน่าจะได้ส่วนแบ่งตลาดในปีแรกสัก 5% แต่กลับได้ส่วนแบ่งถึง 6% ก็เลยมองว่าน่าจะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะจากการทำรีเสิร์ชพบว่า ลูกค้า รับรู้แบรนด์ของเราถึง 80% แต่ช่องทางเรายังไปไม่ทั่ว ทำยังไงถึงจะไปถึงมือผู้บริโภคได้ และคาดว่าปีหน้าตลาดสาหร่ายปรุงรสจะเติบโต 20%”

ไพศาล บอกว่า พอเราลอนช์ 2 รสชาติใหม่จะเข้าไปในโอเพ่นเทรด อย่างร้านโชวห่วยเล็กๆ มากขึ้น ทำให้ปัจจุบันโอโนริมี 3 ขนาด คือ 5 บาท 20 บาท และ 39 บาท โดยคาดว่าปีนี้ยอดขายของโอโนริจะอยู่ที่ 150 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านบาท ในปีหน้า

ปัจจุบัน ตลาดสาหร่ายปรุงรส มีมูลค่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มสาหร่ายทอด 69% กลุ่มสาหร่ายอบ 21% กลุ่มสาหร่ายย่าง 8% และกลุ่มเทมปุระ 2% โดยมีเถ้าแก่น้อยครองส่วนแบ่ง 50% มาชิตะ 15% โอโนริ 6% อื่นๆ อาทิ ซีลิโกะ บิ๊กแบง ตะวันแดง โดโซะ ยูนิ 555 ประมาณ 29% โดยคาดว่าส่วนแบ่งของโอโนริจะเพิ่มเป็น 10% ในปีหน้า ขณะที่เจ้าตลาดอย่างเถ้าแก่น้อยเองก็ไม่ยอมอยู่เฉย ล่าสุด ได้ส่งแคมเปญ “ท้าให้ทายพรีเซ็นเตอร์ใหม่ของเถ้าแก่น้อย” ลุ้นโชคใหญ่รวมมูลค่า กว่า 1 ล้านบาท ด้วยการเกาะติดไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ทั้งการลุ้นรางวัลใหญ่อย่างรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ หรือไอโฟน 5 ที่สำคัญยังมีการ ลุ้นรับเพิ่มบัตรมีตแอนด์กรี๊ดกับพรีเซ็นเตอร์ปริศนาแบบใกล้ชิด จำนวน 5 รางวัล เฉพาะซองเปล่าเถ้าแก่น้อยสาหร่ายอบสไตล์เกาหลี

แม้ว่าเถ้าแก่น้อยจะค่อนข้างมั่นใจในแบรนด์ ของตนเองว่าแข็งแรงพอสมควร ก็ยังต้องมีการออกโปรโมชั่นมากระตุ้นตลาด และตอกย้ำความเป็นสาหร่ายสไตล์เกาหลี โดยที่ผ่านมาเถ้าแก่น้อยได้ให้ความเห็นว่าตลาดสาหร่ายเติบโตเต็มที่ไม่เกิน 10,000 ล้านบาท เนื่องจากวัตถุดิบอย่างสาหร่ายหายากขึ้น และสาหร่ายที่ดีก็ต้องมาจากเกาหลีเท่านั้น ซึ่งเถ้าแก่น้อยอาจจะได้เปรียบกว่าตรงที่ทำตลาดมานาน และเป็นเจ้าใหญ่ในตลาด เลยมีภาษีดีกว่าแบรนด์อื่น คงต้องติดตามดูต่อไปว่าโอโนริ และมาชิตะ จะสามารถสอยส่วนแบ่งจากเถ้าแก่น้อยได้เพิ่มขึ้นหรือไม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น