วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556

“อินเทล” หวังตลาดสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต พยุงตลาดโน้ตบุ๊ก


ที่มาhttp://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000024568
“อินเทล” หันตามเทรนด์ตลาดสู่แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน หลังเห็นแนวโน้มเหล่าผู้ผลิตเริ่มรักษาฐานลูกค้าพีซี ให้ความสำคัญกับแท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนแทน มองปัจจัยหลักทำให้อัลตราบุ๊กเติบโตช้า เนื่องจากซัปพลายหน้าจอทัชสกรีนไม่เพียงพอกับดีมานด์ในตลาด แต่มั่นใจว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในช่วงปลายไตรมาส 2
    
       นายสนธิญา หนูจีนเส้ง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของอินเทลน่าจะอยู่ใน 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ตามเทรนด์ คือ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ที่เหล่าผู้ผลิตจะเริ่มทยอยนำเข้ามาวางจำหน่าในท้องตลาดมากขึ้น
    
       “อินเทลถือว่ายังใหม่ในตลาดนี้ การที่ยังไม่มีส่วนแบ่งในตลาดก็เท่ากับว่ายิ่งขายได้มากเท่าใดก็ยิ่งเติบโตแบบก้าวกระโดดมากเท่านั้น ที่สำคัญคือจากผลทดสอบต่างๆ ที่ออกมา หน่วยประมวลผลของอินเทลถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน”
    
       โดยในส่วนของตลาดสมาร์ทโฟนที่ใช้หน่วยประมวลผลอะตอมของอินเทล นอกจาก Acer C1 ซึ่งวางจำหน่ายในท้องตลาดในระดับราคาต่ำกว่าหมื่นบาท ถือเป็นตัวนำร่อง ก่อนที่จะมีรุ่นอื่นๆทยอยตามออกมาในตลาดภายในไตรมาส 2 นี้
    
       ขณะทีในตลาดแท็บเล็ต ซึ่งใช้หน่วยประมวลผลอะคอม และอินเทลคอร์ไอใบางรุ่น ที่ปัจจุบันมีแต่ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ภายในช่วงกลางเดือนเมษายนก็จะเริ่มเห็นแท็บเล็ตที่ใช้ระบบแอนดรอยด์เข้ามาทำตลาดด้วย
    
       “จากข้อจำกัดของวินโดวส์ 8 ทำให้ผู้ใช้ไม่ได้เห็นแท็บเล็ตวินโดวส์ในราคาต่ำกว่าหมื่นบาท ดังนั้น อินเทลจึงต้องนำแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เข้ามาทำตลาดผ่านแบรนด์ผู้ผลิตรายหลักแทน เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้”
    
       นายสนธิญากล่าวต่อว่า ทางอินเทลคาดการณ์ตลาดพีซีในประเทศไทยปีนี้ว่า จะเติบโตราว 5-6% จากปีที่ผ่านมาไอดีซีระบุว่ามีจำนวนเดสก์ท็อป และโน้ตบุ๊กในตลาดราว 3.7-3.8 ล้านเครื่อง ขณะที่ทางฝั่งผู้ผลิตพีซีก็ออกมาให้ความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ปีนี้จะเน้นการรักษาฐานลูกค้าพีซีไว้ และหันมาเติบโตในตลาดแท็บเล็ต ซึ่งมีกำลังซื้อสูงกว่าแทน
    
       “ปีที่ผ่านมามี 3 เหตุผลหลักที่ทำให้ตลาดพีซีไม่เติบโตเท่าที่ควร คือ การมาของแท็บเล็ตจีนราคาถูก การที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีโน้ตบุ๊กเครื่องหลักอยู่แล้ว จึงหันไปซื้อแท็บเล็ตเพิ่มแทน และสุดท้ายคือนโยบายรถคันแรกที่ทำให้นักศึกษาจบใหม่ หรือพนักงานที่เพิ่งเริ่มทำงานใช้เงินไปกับนโยบายดังกล่าวแทน”
    
       ส่วนในปีนี้เนื่องจากกระแสของแท็บเล็ตยังมาแรงอยู่ อินเทลจึงต้องมุ่งหวังกับตลาดของอัลตราบุ๊ก คอนเวอร์ทิเบิล ซึ่งเป็นฟอร์มเฟกเตอร์ที่อัปเกรดขึ้นมาจากเครื่องอัลตราบุ๊กเดิม ด้วยการใส่หน้าจอทัชสกรีนเข้าไป พร้อมกับรูปแบบการใช้งานที่สามารถปรับหมุนหน้าจอ สไลด์ พับ และถอดหน้าจอเพื่อให้กลายร่างเป็นแท็บเล็ต มาช่วยพยุงตลาดในฝั่งของโน้ตบุ๊กไว้
    
       “ตอนนี้อัลตราบุ๊กแบบคอนเวอร์ทิเบิลเริ่มทยอยเข้ามาวางจำหน่ายในตลาดแล้ว ซึ่งการตอบรับที่ได้ถือว่าดีมาก ของเข้ามาไม่เพียงพอกับการจำหน่าย เนื่องจากกำลังการผลิตไม่เพียงพอจากการขาดชิ้นส่วนของหน้าจอทัชสกรีน ส่งผลให้ผู้ผลิตหลายๆ รายไม่สามารถนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายได้เพียงพอกับความต้องการในท้องตลาด”
    
       ขณะเดียวกัน การมาของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ที่มีความสามารถในการทัชสกรีนได้ จึงส่งผลให้อัลตราบุ๊กรุ่นเดิม ต้องทำการปรับราคาลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 2 หมื่นบาทแทน เพื่อให้สามารถขายได้ ส่วนอัลตราบุ๊ก คอนเวอร์ทิเบิล ระดับราคาก็จะเข้ามาแทนที่อัลตราบุ๊กเดิมที่ช่วงราคาสูงกว่า 25,000 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น