http://www.stock2morrow.com
ในสหรัฐอเมริกา และบริษัทหนึ่งที่ผลกำไรออกมาสูงกว่าที่คาดไว้คือ Starbucks
ที่กำไรในไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25% อันเนื่องมาจากยอดขายจากร้านค้าต่าง ๆ
ที่เพิ่มขึ้น (Same-Store Sales) ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและจากประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
(ยอดขายจากร้านค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ทั่วโลก)
สาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นทั้งรายได้และกำไรของ Starbucks นั้น เกิดขึ้นมาจาก
`การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์´ ของบริษัท
...จากความเป็นร้านกาแฟหรือร้านที่สร้างประสบการณ์เกี่ยวกับกาแฟ ตอนนี้ Starbucks
จะหันมาเน้นที่อาหารและดิจิทัลมากขึ้น
Howard Schultz - CEO ของ Starbucks ออกมาให้สัมภาษณ์ไว้อย่างชัดเจนว่า...
Starbucks จะเพิ่มเมนูอาหารมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันลูกค้าของ
Starbucks (โดยเฉพาะชาวอเมริกัน) ก็จะสนุกสนานกับศักยภาพใหม่ ๆ ทางด้าน Digital ของ
Starbucks เพิ่มมากขึ้
น
::::::::::::::::::
กลยุทธ์และการเคลื่อนไหวของ Starbucks คราวนี้น่าสนใจ
เนื่องจากถ้านับเฉพาะด้านเครื่องดื่มโดยเฉพาะกาแฟนั้น ถือว่า Starbucks อยู่ตัวแล้ว
มีฐานลูกค้าที่มีความจงรักภักดีแล้ว
คราวนี้ Starbucks ก็จะหันมาเพิ่มรายได้จากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่กาแฟมากขึ้น
• 1. อาหาร
มาที่ตัวอาหารกันก่อน Starbucks เชื่อว่าถ้าลูกค้าของตนยอมที่จะจ่ายเงิน
และซื้อกาแฟแพงกว่าที่อื่นแล้ว (แสดงว่าเป็นลูกค้าที่มีกำลังจ่าย)
ลูกค้าเหล่านั้นก็ย่อมที่พร้อมจะจ่ายเงินซื้ออาหารไม่ว่าจะเป็นอาหารว่างหรือ
อาหารเที่ยงด้วยเช่นกัน ถ้า Starbucks เตรียมไว้ให้
ในไตรมาสที่ผ่านมาร้อยละ 22 ของการเติบโตของยอดขายจากร้านค้าเดิมของ
Starbucks นั้นมาจาก...อาหาร
แสดงให้เห็นว่าตัว Growth Engine หรือแหล่งการเติบโตของรายได้ที่สำคัญของ
Starbucks ทั้งในปัจจุบันและอนาคตจะเป็นอาหารไปแล้ว
จากความพยายามในการเพิ่มยอดขายจากอาหารนั้น Starbucks
กำลังจะเปลี่ยนตนเองจากความเป็น Coffee Shop สู่ความเป็น Cafe มากขึ้น
ล่าสุดมีข่าวว่า Starbucks ได้จับมือร่วมกับ Danone SA
ผู้ผลิตนมและผลิตภัณฑ์จากนมยักษ์ใหญ่ของโลก พัฒนา Yogurt
ภายใต้แบรนด์ร่วมระหว่างทั้งสององค์กร ในชื่อว่า "Evolution Fresh,
Inspired by Dannon"
และจะออกวางขายในร้าน Starbucks ภายในปีหน้า
และจะตามมาด้วยการวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตต่อไป
นอกจากนี้การเติบโตเข้าสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ของ Starbucks
ยังชัดเจนด้วยการที่ Starbucks เข้าไปซื้อธุรกิจอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเบเกอรี่
หรือ บริษัทที่ขายใบชา หรือ บริษัทที่ทำ Energy Drink ในช่วงสองปีที่ผ่านมา
::::::::::::::::::
• 2. โซดา
นอกเหนือความพยายามในการดึงลูกค้าเข้าร้านตนเองตอนเช้า
(ด้วยกาแฟและอาหารเช้า) และตอนเที่ยง (ด้วยอาหารเที่ยง) แล้ว
Starbucks ยังพยายามที่จะหาทางดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้านตนเองในช่วงบ่าย
ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือเครื่องดื่มประเภทโซดา
ตอนนี้ Starbucks กำลังทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ของตนเองอยู่
โดยเน้นการดึงดูดลูกค้าที่ต้องผจญกับอากาศร้อนให้เข้ามาดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ
ในร้านตนเองด้วย Soda-Fountain
โดยเริ่มจากสามรสชาติคือ Lemon ale, Spiced root beer, Ginger ale
เรียกได้ว่า...ในช่วงที่กาแฟขายไม่ดีอย่างช่วงบ่ายก็พยายามหาสินค้าอื่นมานำเสนอลูกค้า
::::::::::::::::::
• 3. Digital Experience
กลยุทธ์ที่น่าสนใจอีกประการของ Starbucks คือการพยายามที่จะดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาที่
Starbucks มากขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นตัวล่อ
ตอนนี้ Starbucks มีตำแหน่ง Chief Digital Officer เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในอเมริการ้อยละ 10 ของการชำระเงินในร้านค้าเกิดขึ้นผ่านโทรศัพท์มือถือแล้ว
ขณะเดียวกันมีผู้ติดตาม Twitter ของ Starbucks เกิน 4.3 ล้านคนแล้ว
ส่วนใน facebook ก็มีแฟนเพจ มากกว่า 35 ล้านคน
และล่าสุดเห็นกำลังติดตั้งที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือไว้ให้ลูกค้า
โดยเป็นที่ชาร์จที่เป็นลักษณะของ Charging Mats
ที่เพียงแค่วางมือถือไว้ก็จะชาร์จแบตให้ทันที
เรียกได้ว่า Starbucks นอกจากจะสามารถสร้างประสบการณ์ด้านกาแฟแล้ว
ยังหันมาจับเจ้า Digital Experience ของกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่อีกด้วย
นี่คือ...กลยุทธ์การเติบโตที่ Starbucks มุ่งเน้น เรียกได้ว่าทั้งชัดเจนและ
เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
::::::::::::::::::
Credit : ดร.พสุ เดชะรินทร์ - คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์
"มองมุมใหม่" กรุงเทพธุรกิจ